วิกฤตเงินเฟ้อเวเนซุเอลาแตะ 229% พลิกโฉมระบบการเงินภายในประเทศดันให้ USDt ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ประเภทหนึ่ง โดยเป็นคริปโตเคอเรนซีที่ออกแบบมาเพื่อรักษามูลค่าให้คงที่โดยตรึงกับสกุลเงินจริง กลายเป็นสกุลเงินหลักแทนโบลิวาร์ ใช้ชำระตั้งแต่ค่าอาหาร ค่าคอนโด ไปจนถึงเงินเดือนและค่าบริการต่าง ๆ สะท้อนการล่มสลายของเงินตราประจำชาติ ขณะที่ตลาดคู่ขนานและการควบคุมเงินทุนโดยรัฐบาลยิ่งผลักให้เสถียรภาพของเศรษฐกิจถดถอยหนักขึ้น
Stablecoin ครองตลาด - โบลิวาร์กลายเป็นแบงก์กงเต๊ก หมดความน่าเชื่อถือ
ในภาวะที่เงินเฟ้อประจำปีพุ่งทะลุ 229% โบลิวาร์เวเนซุเอลาแทบหมดบทบาทในชีวิตประจำวัน ประชาชนและภาคธุรกิจหันมาใช้ Stablecoin โดยเฉพาะ USDt (Tether) ที่ได้รับฉายา “Binance Dollars” เป็นสื่อกลางซื้อขายแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ของชำ ค่าบริการ ไปจนถึงการจ่ายเงินเดือน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบการเงินภายในประเทศที่ถูกบีบคั้นด้วยเงินเฟ้อรุนแรงและมาตรการควบคุมทุนอย่างเข้มงวด
3 อัตราแลกเปลี่ยน - ตลาดคู่ขนานเฟื่องฟู
ระบบการเงินเวเนซุเอลาปัจจุบันมีอัตราแลกเปลี่ยน 3 ระดับ ได้แก่ อัตราทางการของธนาคารกลาง (151.57 โบลิวาร์/ดอลลาร์) อัตราตลาดคู่ขนาน (231.76 โบลิวาร์/ดอลลาร์) และอัตรา USDt บน Binance (219.62 โบลิวาร์/ดอลลาร์) ซึ่งตลาดกลับเลือกใช้อัตราของ Binance เป็นหลัก เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง โปร่งใส และตอบโจทย์ทั้งผู้ค้าและผู้บริโภคมากกว่าอัตราทางการ
จากคริปโตสู่สกุลเงินหลักของประชาชน
สิ่งที่เคยเป็นพื้นที่ของผู้ใช้คริปโตระดับเริ่มต้น วันนี้กลายเป็นเครื่องมือการเงินของคนทุกชนชั้น “ผู้คนและบริษัทต่าง ๆ ต้องการตีราคาสินค้าและบริการเป็นดอลลาร์ และรับชำระด้วยดอลลาร์หรือ USDt” เมาริซิโอ้ ดิ บาร์โตโลมิโอ้ ผู้ร่วมก่อตั้ง Ledn กล่าว พร้อมระบุว่า Stablecoin ไม่เพียงแทนที่เงินสด แต่ยังทำหน้าที่เป็น “ดอลลาร์ที่มีประสิทธิภาพกว่า” และเป็นตัวปรับสมดุลการเงินระหว่างชนชั้นในสังคมเวเนซุเอลา
เวเนซุเอลาติดอันดับโลกด้านการใช้คริปโต
รายงานจาก Global Crypto Adoption Index 2025 ของ Chainalysis ชี้ว่า เวเนซุเอลาติดอันดับ 18 ของโลก และขึ้นมาที่อันดับ 9 เมื่อปรับตามประชากร การใช้ Stablecoin มีสัดส่วนสูงถึง 47% ของธุรกรรมคริปโตที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ในปี 2024 และมูลค่าการใช้งานคริปโตโดยรวมเพิ่มขึ้นกว่า 110% ในปีเดียว
ธุรกรรมในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ค่าบริการรักษาความปลอดภัย ค่าดูแลสวน ไปจนถึงค่าธรรมเนียมอาคาร ล้วนเปลี่ยนมารับชำระด้วย Stablecoin สะท้อนการปรับตัวครั้งใหญ่ของตลาดการเงินภาคประชาชน
ตลาดคู่ขนานและเกมทุนของรัฐ
แม้บางองค์กรภาครัฐยังผูกติดกับอัตราทางการของ BCV แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่กลับยึดอัตรา USDt ของ Binance เป็นเกณฑ์หลัก รัฐบาลเวเนซุเอลาที่กดดันด้วยมาตรการคุมเงินทุนเข้มงวด กลับสร้างช่องทางทำกำไรแก่บริษัทที่เชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจ ซึ่งได้รับการจัดสรรดอลลาร์ในอัตราทางการ แล้วนำไปขายในตลาดคู่ขนานเพื่อเก็งกำไร ความบิดเบี้ยวนี้ยิ่งเร่งให้ตลาด Stablecoin เติบโตแบบไร้ทางเลือก
เมื่อฟีแอตล้มเหลว คริปโตจึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เฟื่องฟู
บทเรียนจากเวเนซุเอลาสะท้อนชัดว่า ในประเทศที่ระบบการเงินไร้เสถียรภาพและถูกปิดกั้นด้วยมาตรการควบคุมทุน คริปโต โดยเฉพาะ Stablecoin กำลังกลายเป็นเครื่องมือหลักของภาคประชาชน ไม่ต่างจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอาร์เจนตินา ตุรกี และไนจีเรีย ล่าสุด แม้แต่ธนาคารท้องถิ่นบางแห่งในเวเนซุเอลาก็เริ่มหันมาใช้ USDt เพื่อเลี่ยงข้อจำกัดหลังจากโดนสหรัฐฯ คว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมัน
คริปโตแทนที่สกุลเงินท้องถิ่น?
สถานการณ์ปัจจุบันของเวเนซุเอลาตอกย้ำว่าเมื่อเงินตราในประเทศไร้ค่า ประชาชนจะเลือกทางออกใหม่ที่สร้างเสถียรภาพได้มากกว่า Stablecoin จึงไม่เพียงเป็นเครื่องมือชำระเงิน แต่ยังเป็น “ทางรอด” ของคนทั้งชาติ การเติบโตของ “Binance Dollars” จึงเป็นทั้งเครื่องสะท้อนวิกฤตเศรษฐกิจเวเนซุเอลา และสัญญาณชัดเจนว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่คริปโตเข้ามาแทนที่ระบบการเงินดั้งเดิมในประเทศที่รัฐล้มเหลวในการบริหารค่าเงิน