ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเดินทางไปเยือนสาธารรัฐเชเชนซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัสเหนือทางตอนใต้ของรัสเซียเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) โดยเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 13 ปี และได้ไปตรวจเยี่ยมเหล่าทหารเชเชนและกองกำลังอาสาสมัครซึ่งพร้อมจะถูกส่งเข้าไปรบในยูเครน
การปรากฏตัวของ ปูติน ในภูมิภาคซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนี้เกิดขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังเผชิญการรุกรานของทหารยูเครนซึ่งบุกทะลวงพรมแดนเข้าไปยังแคว้นคูสก์ (Kursk) ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และถือเป็นปฏิบัติการรุกรานดินแดนรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
“ตราบใดที่เรายังมีชายฉกรรจ์เช่นพวกคุณ เราจะไม่มีวันแพ้แน่นอน” ปูติน กล่าวต่อบรรดาทหารที่ Russian Special Forces University ซึ่งเป็นสถาบันฝึกทหารในเมืองกูเดอร์เมสของสาธารณรัฐเชเชน
“การยิงเป้าในสนามซ้อมที่นี่ก็อย่างหนึ่ง แต่การเอาชีวิตและสุขภาพของตนเองเข้าเสี่ยงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทว่าพวกคุณจะต้องมีความมุ่งมั่นในใจที่จะปกป้องแผ่นดินเกิด และมีความกล้าหาญที่จะตัดสินใจทำเช่นนั้นด้วย”
การที่ทหารต่างชาติสามารถรุกล้ำเข้าไปยึดดินแดนรัสเซียได้ถือว่าสร้างความอับอายขายหน้าไม่น้อยต่อ ปูติน และกองทัพของเขา แม้ว่ากองกำลังรัสเซียจะยังคงสามารถรุกคืบยึดดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครนได้อย่างช้าๆ แต่ว่าต่อเนื่องก็ตาม
รัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชนซึ่งถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรในปี 2020 และ 2022 ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนและระดมทหารเชเชนเข้าสู้รบในยูเครน บอกกับผู้นำรัสเซียวานนี้ (20) ว่าเชชเนียได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในยูเครนแล้วมากกว่า 47,000 นาย รวมถึงอาสาสมัครอีก 19,000 คน นับตั้งแต่ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ของ ปูติน เริ่มขึ้นในปี 2022
คาดีรอฟ มักจะพูดเสมอว่าตนเองคือ “ทหารเดินเท้า (foot soldier)” ของ ปูติน
ผู้สื่อข่าวได้ยิงคำถามกับ ปูติน ว่า ทหารเดินเท้าอย่าง คาดีรอฟ นั้นสมควรที่จะได้รับความไว้วางใจจากเขาหรือไม่? ซึ่งผู้นำหมีขาวก็ตอบว่า “ถ้าผมมีทหารเดินเท้าเช่นนี้เยอะๆ ผมก็คงจะมีความสุขมาก แต่ถึงแม้จะมีแค่คนเดียว ก็ถือว่ามีคุณค่าอย่างยิ่ง”
ที่มา : รอยเตอร์