xs
xsm
sm
md
lg

การ์ทเนอร์รายงาน 'HUAWEI' ครองเบอร์ 3 คลาวด์ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การ์ทเนอร์เผยรายงานส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมไอที ระบุว่าหัวเว่ยขึ้นแท่นบริษัทที่มีรายได้เป็นอันดับ 2 ในตลาดบริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ (IaaS) ของจีน และครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 3 ในประเทศไทย ขณะที่รายงานจากฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ระบุว่า หัวเว่ย คลาวด์ทำรายได้เป็นอันดับ 1 ในตลาดบริการไฮบริดคลาวด์ในประเทศไทย


ในปี 2566 หัวเว่ย คลาวด์ (HUAWEI Cloud) มีรายได้ทั่วโลกราว 55,000 ล้านหยวน โดยรายได้จากการให้บริการคลาวด์สาธารณะนอกประเทศจีนเติบโตขึ้น 110% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้หัวเว่ยเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ที่ผ่านมา หัวเว่ย คลาวด์ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายองค์กรในประเทศไทยในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2561 บริษัทได้เปิดตัวบริการคลาวด์มากกว่า 100 รูปแบบ พัฒนาความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในท้องถิ่นมากกว่า 300 ราย และให้บริการลูกค้าหลายพันราย


ปัจจุบัน หัวเว่ย คลาวด์เปิดตัวศูนย์ข้อมูล 3 แห่งในประเทศไทย โดยศูนย์ข้อมูลล่าสุดเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดการดำเนินงานภายในประเทศอย่างเคร่งครัด และรองรับทั้งการชำระเงินและการเรียกเก็บเงินในสกุลเงินท้องถิ่น นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรม OpenLab ในประเทศไทย เพื่อร่วมมือกับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ในการผลักดันนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในท้องที่โดยเฉพาะ

หัวเว่ยมีรากฐานที่มั่นคงในประเทศไทยมากว่า 25 ปี โดยมีพนักงานคนไทยคิดเป็น 77% ของพนักงานทั้งหมด พร้อมทำงานร่วมกับบริษัทคลาวด์ในไทยกว่า 300 ราย และสตาร์ทอัป 120 ราย เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศที่เจริญรุดหน้าภายในท้องถิ่น

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้จับมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยกว่า 40 แห่ง และฝึกอบรมนักพัฒนาคลาวด์กว่า 10,000 ราย โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนเป็น 20,000 คนภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยบ่มเพาะทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น