xs
xsm
sm
md
lg

BKGIเผยครึ่งปีหลังสดใส รับปัจจัยบวก สปสช.หนุนตรวจNIPT ฟรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังส่งสัญญาณเติบโตแข็งแกร่ง หลังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เห็นชอบการตรวจคัดกรองอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ด้วยวิธีไม่รุกล้ำ (NIPT) ฟรี เพื่อเข้าถึงการตรวจที่แม่นยำ ผู้บริหาร "ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล" ระบุ บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อการตรวจ NIPT ในระบบ สปสช. พร้อมเดินหน้าขยายบริการห้องปฏิบัติการและตรวจคัดกรองทางพันธุกรรมร่วมกับพันธมิตร หนุนผลงานปี 68 เติบโต 15-20%


ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (BKGI) เปิดเผยว่า คลินิกเทคนิคการแพทย์แบงคอกจีโนมิกส์ ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนศักยภาพบริการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้เป็นหน่วยบริการรับส่งต่อการตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) ในระบบ สปสช. ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในสิทธิประโยชน์หลักสำหรับหญิงตั้งครรภ์ทุกสิทธิด้านการรักษา ให้เข้าถึงการตรวจที่แม่นยำอย่างครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งบริการดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสนับสนุนการตรวจคัดกรองทางพันธุกรรม ให้เติบโตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด


สำหรับ การตรวจคัดกรอง NIPT หรือ การตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ด้วยวิธีไม่ รุกล้ำ บอร์ด สปสช. เห็นชอบให้เป็นทางเลือกหลัก สำหรับ “กลุ่มหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเป้าหมาย” ให้ได้รับการตรวจอาการดาวน์ในการตั้งครรภ์ เพื่อสนับสนุนให้เข้าถึงการตรวจด้วยวิธีการที่มีความแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งได้ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการตรวจ NIPT จากเดิม 1,700 บาท เป็น 2,700 บาท เพื่อจูงใจให้เกิดการให้บริการ อย่างแพร่หลาย


ขณะที่ การให้บริการการตรวจ NIPT ของ BKGI ได้รับมาตรฐานระดับสากล ซึ่งการตรวจวิเคราะห์ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO15189:2022 และใช้เทคนิค NGS (Next Generation Sequencing) ยังช่วยลดอัตราการเกิดผลลวงและเป็นวิธีที่แม่นยำกว่า 99% มีปลอดภัยกับลูกในครรภ์ และมั่นใจในมาตรฐาน คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถตรวจคัดกรอง NIPT กับโครงการ สปสช.ไว้ที่ประมาณ 30,000 ราย


ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ขยายการให้บริการและความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1. ยกระดับการตรวจคัดกรองและการรักษาโรคอัลไซเมอร์ กับบริษัท เอไซ (ประเทศไทย) มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, 2. ขยายการใช้งานและการเข้าถึงแพลตฟอร์ม NGS (Next Generation Sequencing) ร่วมกับบริษัท เอ็มจีไอ เทค จำกัด, 3. ความร่วมมือด้านนวัตกรรมการเกษตรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน กับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.), 4. ลงนามข้อตกลงสิทธิและการบริหารจัดการผลงานวิจัยและนวัตกรรม กับฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์ทีเซลล์ และ 5. ลงนามสัญญาจ้างเหมาตรวจทางห้องปฎิบัติการ กับสถาบันวิจัยและประเมินเทคโนโลยีทางการแพทย์ กรมการแพทย์ ซึ่งจะเห็นว่า BKGI มีศักยภาพในการดำเนินงานและขยายการให้บริการที่จะสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตระยะยาว


นายกิตติคุณ รอดรังนก ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน BKGI กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ขยายตลาดในการขายเครื่องมือห้องปฏิบัติการพร้อมขายน้ำยา ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้นทั้งในภาครัฐและเอกชน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการแบบต่อเนื่อง บริษัทฯมีความพร้อมทั้งในส่วนของห้องปฏิบัติการ บุคลากร และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อรองรับปริมาณการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต


สำหรับแผนธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้าขยายการให้บริการใหม่ๆ ด้านการแพทย์จีโนมิกส์อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 40-50 ล้านบาท เพื่อรองรับการก่อสร้างห้องปฏิบัติการแห่งใหม่ เพื่อขยายฐานการตรวจหาความเสี่ยงทางด้านโรคมะเร็ง รวมถึงมองหาโอกาส (M&A) ธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน และจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านให้บริการห้องปฏิบัติการและตรวจวินิจฉัยทางพันธุกรรมของ BKGI โดยตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไว้ที่ประมาณ 15-20%


กำลังโหลดความคิดเห็น