“สมศักดิ์” มอบถุงยาง 3,000 ชิ้นให้ สจล. หวังลดโรคทางเพศในกลุ่มวัยรุ่น
ยันไม่เอื้อทุนใหญ่กรณีกัญชา เตือนหากไม่จัดระเบียบอาจกลายเป็นยาเสพติด ด้านบอร์ด สปสช. ไฟเขียวบริการฮอร์โมนยืนยันเพศ หนุนสิทธิเสมอภาค
วันนี้(7 ก.ค.68) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มอบถุงยางอนามัยจำนวน 3,000 ชิ้น ให้แก่ รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และ รศ.นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ ผู้อำนวยการ รพ.พระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารสจล.พร้อมกับรับหนังสือร้องเรียนจากบุคคลไร้บ้าน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบันพบว่าอัตราการติดเชื้อเอชไอวี เอดส์ ยังมีอัตราคงที่และไม่ลดลง อีกทั้งพบอัตราการติดเชื้อโรคซิฟิลิสและหนองในกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-24 ปี ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจการใช้ถุงยางอนามัยโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่าอัตราการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่นลดลงมาก สปสช. และกระทรวงสาธารณสุข เห็นความสำคัญและสนับสนุนการดำเนินการเพื่อยุติปัญหาเอดส์ ลดการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในกลุ่มเยาวชน วัยรุ่น
รวมถึงประชาชนทั่วไป ส่งเสริมให้การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิถีชีวิตประจำวัน และเข้าถึงถุงยางอนามัยได้สะดวก ทั่วถึง และเพียงพอในทุกพื้นที่ การแจกจ่ายให้แก่เยาวชน วัยรุ่นและประชาชนทั่วไป โดยไม่ต้องแสดงข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ในการขอรับบริการเพื่อลดความกังวลและเขินอายสำหรับคนที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนในการรับถุงยางอนามัย และอยากเชิญชวนสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ให้รับถุงยางอนามัยจาก สปสช.มีจำนวนเพียงพอที่จะสนับสนุนได้
สำหรับกรณีคนไร้บ้านที่มายื่นหนังสือบอกว่าเป็นบ้านเช่า เข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล แต่ ความจริงคนที่อยู่บ้านเช่า ก็มาสามารถใช้บริการได้ อยู่ที่การรับรองจากต้นทางของเจ้าบ้าน แนวทางแก้ปัญหาต้นทางอาจจะเป็นหน่วยงานอื่น ไม่ใช่สปสช.เพราะเราเป็นปลายทาง ของเราก็จะจะดูว่าขาดเอกสารอะไรที่ไม่สามารถเข้าสู่การรักษาพยาบาลได้ ส่วนจะเพิ่มบริการเชิงรุกหรือไม่นั้น อาจต้องพิจารณา จุดเริ่มต้นที่เข้าไปไม่ได้เพราะอะไร ถ้าไปแก้ปลายเหตุเลยก็ไม่ง่าย
นายสมศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นว่า ที่ประชุมบอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบข้อเสนอบริการฮอร์โมนเพื่อการยืนยันเพศสภาพให้เป็นสิทธิประโยชน์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท โดยการอนุมัติสิทธิประโยชน์นี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ว่ารัฐบาลจะส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และทำให้ทุกคนในสังคมไทยสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นได้อย่างทั่วถึงและมีศักดิ์ศรี โดยเร่งแก้ไขปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้าถึงสิทธิที่พึงมี มติในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถเข้าถึงบริการฮอร์โมนเพื่อการยืนยันเพศสภาพได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการใช้ฮอร์โมนอย่างผิดวิธี นอกจากนี้ บอร์ด สปสช.ยังอนุมัติปล่อยกู้ให้กับโรงพยาบาลขอนแก่นวงเงิน 242.76 ล้านบาท เพื่อช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่อง
นายสมศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเครือข่ายกัญชานัดชุมนุมที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อยื่นข้อเรียกร้องและปักหลักค้างคืนว่า เป็นห่วงสุภาพที่จะมานอนตากลม ส่วนที่มีการโจมตีว่าทำเรื่องกัญชาเอื้อทุนใหญ่นั้น ยืนยันไม่เอื้อใครทั้งสิ้น ไม่มีทุนใหญ่ ต่อไปใหญ่จะจบด้วยวิธีการไหน ถ้าหากเราจัดระเบียบไม่เรียบร้อย ก็พัฒนาขึ้นไปเป็นยาเสพติด ทั้งนี้เรี่องการทำกฎหมายไม่ทันกับอายุของสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นการออกกฎหมายที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเห็นตรงกันเต็มที่ก็ยังใช้เวลา 1 ปี อยากให้เริ่มต้นแนวทางกลางๆ เป็นสมุนไพรควบคุม แต่ถ้ายุ่งยากมากสุดท้ายจะเป็นยาเสพติด เพราะการทำเป็นยาเสพติดสามารถทำประกาศได้ง่ายและเร็วที่สุด กฎหมายให้อำนาจไว้ว่าอะไรที่เป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนมากมาย ทำง่าย ส่วนพวกขนมเยลลี่ก็ห้ามอยู่แล้วการไปผสมอาหารก็เป็นปัญหามากมาย ก็ให้อย.ดำเนินการจับกุมเต็มที่ ปล่อยปละเลยไม่ได้ เหมือนเป็นของมีพิษสำหรับคนที่แพ้