เวียดนามเดินเกมใหญ่ เปิดตัว “NDAChain” แพลตฟอร์มบล็อกเชน Layer 1 ที่พัฒนาโดยรัฐ ผสมผสานศูนย์กลางอำนาจและระบบกระจายศูนย์อย่างแนบเนียน รองรับธุรกรรมสูงสุด 3,600 รายการต่อวินาที พร้อมปลดล็อกบริการยืนยันตัวตนและติดตามสินค้าครบวงจร รุกสู่การกำกับดูแลข้อมูลและบริการสาธารณะบนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่รัฐบาลควบคุมได้เต็มมือ
เวียดนามก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอธิปไตยทางข้อมูลและการกำกับดูแลดิจิทัล ด้วยการเปิดตัว “NDAChain” บล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ได้รับการอนุญาต (permissioned blockchain) ซึ่งได้รับการพัฒนาและบริหารจัดการภายใต้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ และดำเนินการโดยสมาคมข้อมูลแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลแห่งชาติ” ที่ปลอดภัย โปร่งใส และมีเสถียรภาพภายใต้การควบคุมของรัฐ
NDAChain ใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Authority (PoA) ที่ขับเคลื่อนโดยโหนดตรวจสอบ 49 โหนด ซึ่งบริหารจัดการโดยทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ SunGroup, Masan, Zalo, Sovico และ VNVC ทำให้ระบบมีความสมดุลระหว่างความปลอดภัย ความรวดเร็ว และความเป็นเจ้าของร่วม
ด้วยขีดความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมสูงสุดถึง 3,600 รายการต่อวินาที และการเสริมความเป็นส่วนตัวผ่านเทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof (ZKP) แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับระบบราชการอิเล็กทรอนิกส์ การยืนยันตัวตนดิจิทัล และบริการต่างๆ ในเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
นายเหงียน ฮุย หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของสมาคมข้อมูลแห่งชาติ ระบุว่า “เวียดนามได้เลือกใช้โครงสร้างไฮบริดที่หลอมรวมอำนาจแบบรวมศูนย์และแบบกระจายศูนย์เข้าด้วยกัน โดย NDAChain คือเกราะป้องกันด่านหน้าในสนามรบข้อมูลแห่งศตวรรษที่ 21”
ขณะที่หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ NDAChain คือระบบการยืนยันตัวตนแบบกระจายอำนาจ (NDA DID) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเซ็นสัญญาและดำเนินธุรกรรมทางดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย โดยไม่พึ่งพาตัวกลาง รวมถึงระบบติดตามผลิตภัณฑ์ข้ามพรมแดน (NDATrace) ที่กำหนดรหัสเฉพาะให้กับสินค้า เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตามมาตรฐานสากล เช่น GS1 และ W3C DID
นอกจากนี้ทั้งสองระบบจะเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลประจำชาติ และถูกนำไปใช้จริงภายในสิ้นปี 2568 ในระดับจังหวัดและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ก่อนขยายผลสู่แอปพลิเคชันเลเยอร์ 2, การพัฒนาบริการดิจิทัล และการจับมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศในระยะต่อไป
การเปิดตัว NDAChain ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นหนึ่งในแนวโน้มระดับโลกที่นานาประเทศกำลังพัฒนา “บล็อกเชนแห่งรัฐ” ขึ้นมาเพื่อยกระดับความมั่นคงของข้อมูล และยึดคืนอำนาจทางดิจิทัลจากระบบแบบเปิดที่ควบคุมยาก
ขณะที่ประเทศจีนมี BSN (Blockchain Service Network), สหภาพยุโรปมี EBSI (European Blockchain Services Infrastructure), และเกาหลีใต้พัฒนา Klaytn ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
ทั้งนี้การเข้าสู่สมรภูมิของเวียดนามจึงเป็นมากกว่าการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ แต่นี่คือสัญญาณชัดว่า “บล็อกเชนระดับรัฐ” จะกลายเป็นอาวุธใหม่ในยุทธศาสตร์ข้อมูลระดับโลก ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี หากแต่เป็นเครื่องมือกำหนดชะตาทางเศรษฐกิจและการเมืองในอนาคต