xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจสีเทาบนควันสีขาวมีแต่เพิ่มไม่มีลด ขอนายกฯ คุยเพื่อนบ้านต้นทางการผลิตใน ASEAN Summit

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุหรี่เถื่อนที่ยังเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนครั้งการจับกุม และจำนวนมวนและมูลค่าที่มีแต่เพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ภาคใต้ยังยืนหนึ่ง ตามด้วยภาคตะวันออก ขณะที่บุหรี่เถื่อนส่วนใหญ่ล้วนมากจากประเทศเพื่อนบ้านที่รับจ้างผลิตอย่างถูกกฎหมาย วอนนายกฯ อุ๊งอิ๊ง คุยเพื่อนบ้านร่วมมือตรวจสอบอย่างจริงจังตัดวงจรบุหรี่เถื่อน

ในการแถลงผลงานกรมสรรพสามิตในปี 2567 ของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึง การดำเนินงานของศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ว่า ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (ต.ค. 2566-ก.ย.2567) พบการกระทำผิด จำนวน 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกันถึง 28.11% คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับสูงถึง 2,465.86 ล้านบาท


โดยมีผลปราบปรามยาสูบจำนวน 13,170 คดี ค่าปรับ 361.73 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 2,334.40 ล้านบาท จากจำนวนของกลาง แบ่งเป็นยาสูบในประเทศ 301,961 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 2,579,434 ซอง ซึ่งจากตัวเลขเพิ่มขึ้นและจำนวนการสูญเสียทางเศรษฐกิจ รวมถึงทางสุขภาพนั้นน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

ขณะที่ตัวเลขในปีงบประมาณ 2567 ของกรมศุลกากรมีการแถลงว่าคุมเข้มจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย โดยกรมศุลกากรนั้นมีสถิติการจับกุมบุหรี่เถื่อนและปลอมสูงถึง 1,877 คดี จากปริมาณ 35,429,751 มวน มีมูลค่ากว่า 192,279,678 บาท

โดยสถานการณ์บุหรี่ผิดกฎหมายในไทย นับตั้งแต่มีการปรับราคาบุหรี่ในเดือนตุลาคม 2564 ทำให้บุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายในไทยพุ่งทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 25.5% จากที่มีระดับเพียง 6.2% หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 311% ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี


สำหรับวงการบุหรี่ของไทยตัวเลขประมาณการจำนวนบุหรี่ถูกกฎหมายในปี 2566 พบว่ามีอยู่ประมาณ 27,000 ล้านมวน ส่วนตัวเลขบุหรี่ผิดกฎหมายสามารถคาดการณ์ได้ว่าบุหรี่เถื่อนในประเทศไทยน่าจะมีอยู่ราวๆ 8,000-9,000 ล้านมวน ส่งผลความเสียหายทางเศรษฐกิจจากปริมาณบุหรี่เถื่อนเหล่านี้ราวๆ 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งความเสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าคือผลกระทบต่อรายได้ภาษีของรัฐรวมราวๆ 25,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

จากข้อมูลในเชิงลึกแหล่งที่มาของบุหรี่เถื่อนส่วนใหญ่บุหรี่เถื่อนที่พบจะเป็นบุหรี่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่มีแสตมป์และไม่มีขายในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งบุหรี่เถื่อนหนีภาษีเหล่านี้คิดเป็นกว่า 97% ของบุหรี่ผิดกฎหมายในไทย โดยในรอบปีที่ผ่านเจ้าหน้าที่ภาครัฐหลายหน่วยงานระดมกำลังในการกวาดล้างจับกุมหน้าร้านและสกัดจับขบวนการลักลอบขนย้ายบุหรี่เถื่อนในหลายพื้นที่ดังปรากฎเป็นข่าวสื่อสารมวลชน เช่น สงขลา ภูเก็ต นราธิวาส พัทลุง ตราด จันทบุรี สระแก้ว เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจากผลการสำรวจของหน่วยงานที่เกี่ยวกับบุหรี่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด


เป็นที่น่าสังเกตสำคัญคือ บุหรี่เถื่อนที่จับกุมได้โดยเจ้าหน้าที่ภาครัฐจากหลายหน่วยงานทั้งสรรพสามิต  ศุลกากร ตำรวจ ทหาร โรงงานยาสูบและกรมการปกครอง จะถูกระบุว่ามีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยการอ้างอิงข่าวจับกุมจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะพบว่าเส้นทางลักลอบขนบุหรี่เถื่อนมีความหลากหลายและรุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ต้นปีที่ผ่านมาที่ลอบขนบุหรี่เถื่อนจากจังหวัดตรังจนประสบอุบัติเหตุที่จังหวัดพัทลุง หรือการปะทะกันอย่างดุเดือดของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี หลังการต่อสู้และวิสามัญคนร้ายนอกเหนือจากพบอาวุธจำนวนมากแล้ว ยังพบบุหรี่เถื่อนจำนวนมาก โดยจังหวัดที่มีจำนวนบุหรี่เถื่อนทะลักเข้ามาจำนวนไม่น้อยคือจังหวัดสตูล ที่ทัพเรือภาคที่ 2 สามารถจับล็อตใหญ่ได้หลายครั้ง


นอกเหนือจากพื้นที่ภาคใต้แล้ว ในพื้นที่ภาคตะวันออกก็รุนแรงไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างเช่นในกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังจับขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ของกลางบุหรี่กว่า 3.5 ล้านมวน โดยผู้ถูกจับกุมเป็นหนุ่มชาวกัมพูชาที่ขับรถแหกด่านและเบียดรถเจ้าหน้าหลบหนีก่อนถูกจับกุม หรืออย่างกรณีที่ผู้ลับลอบบุหรี่เถื่อนถึงกล้าปลอมรถแดงไปรษณีย์แอบขนบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่านับ 10 ล้านบาท หรืออย่างคดีของสองนายตำรวจใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการเอ่ยอ้างถึงส่วยบุหรี่เถื่อนด้วยเช่นกัน


ปัญหาเรื่องบุหรี่เถื่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่แล้วประกาศเอาจริงกับปัญหาบุหรี่เถื่อนแต่พอหลังจากหลุดจากตำแหน่งเปลี่ยนเป็นนายกฯ คนปัจจุบันก็ดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องนี้จะถูกพูดถึงน้อยลง อาจเพราะปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และอุทกภัยที่เข้ามาในช่วงเวลานี้ แต่การพบปะในเวที ASEAN Summit ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ หากนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” เพิ่มหัวข้อในเรื่องนี้เข้าไปในการพูดคุยกับประเทศต้นทางอย่างเวียดนามที่เป็นศูนย์กลางในการรับจ้างผลิตบุหรี่อย่างถูกกฎหมายของภูมิภาค เพื่อร่วมมือในการตรวจสอบอย่างรัดกุมในการส่งออกไปยังประเทศต้นทางที่สั่งผลิต เพราะที่ผ่านมาบุหรี่เถื่อนคือบุหรี่ที่ลับลอบเข้ามาขายในประเทศที่ไม่ได้เป็นผู้สั่งการผลิตเช่นประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

เรื่องนี้คงต้องอยู่ที่การมองปัญหาในเรื่องนี้ของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ว่าเป็นอย่างไร หลายคนคงอยากรู้คำตอบ!
















กำลังโหลดความคิดเห็น