ต้องสังเวยอีกกี่ศพ นโยบายรัฐหลงทางแก้ปัญหาดับไฟใต้

รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ ต้องสังเวยอีกกี่ศพ นโยบายรัฐหลงทางแก้ปัญหาดับไฟใต้



จากเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบบุกเข้าปล้นปืนที่กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 มาจนถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 20 ปีแล้วที่ไฟใต้ไม่เคยมีทีท่าว่าจะมอดดับลง

อีกทั้งยังกลืนกินชีวิตทั้งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจอาสาสมัครและพลเรือนผู้บริสุทธิ์เกือบ 1,500 คน บาดเจ็บกว่า 14,000 คน สูญเสียงบประมาณในการแก้ปัญหาไปแล้วกว่า 5 แสนล้านบาท

ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของฤดูถือศีลอดหรือรอมฏอน กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้เปิดปฏิบัติการวางระเบิดและเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเอกชนพร้อม ๆ กันกว่า 40 จุด ทั้งปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ ร้านเฟอร์นิเจอร์ ในเขตจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา

สิ่งที่เกิดขึ้นและปรากฏเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มีอิสระในการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในเวลากลางคืน สามารถเดินทางไปยังเป้าหมายที่กำหนดไว้ ได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งไม่ต่างอะไรกับความเป็นจริงที่กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า

ศัตรูสามารถครอบครองพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน

ด้วยเหตุนี้ จึงมีคำถามตามมาว่า นโยบายในการแก้ปัญหาไฟใต้ที่กำหนดไว้เป็นไปอย่างถูกต้อง หรือหลงทางกันแน่
เพราะการที่กองทัพมุ่งเน้นการเจรจาใช้ไม้นวม หวังใช้งานด้านกิจการพลเรือนดึงมวลชนมาเป็นพวก กลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ศัตรูกล้าแข็งขึ้น

โดยเฉพาะนโยบายด้านยุทธการ ซึ่งมุ่งเน้นการตั้งรับ ไม่ปฏิบัติการเชิงรุก แสดงกำลังด้วยการลาดตระเวนต่อเนื่อง ตั้งด่านหนาแน่น เพื่อกดดันและตัดรอนอิสระของศัตรู

จึงทำให้การสูญเสียของฝ่ายเรา ทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่และพลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นไปศพแล้วศพเล่า

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม เวลา 17.30 น. กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้แฝงตัวเข้าไปในตลาด แล้วใช้อาวุธปืนยิงทหารพรานหญิงนูรีซัน พรมศรี อายุ 35 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 49 เสียชีวิตคาที่ โดยทหารพรานหญิงผู้เคราะห์ร้ายรายนี้อยู่ในระหว่างการลาพักกลับภูมิลำเนา และไปช่วยญาติขายของอยู่ที่ตลาดนัดดูซงยอ

ทั้งนี้โดยปกติในช่วงลาพัก นูรีซันจะไม่เดินทางกลับบ้าน เนื่องจากรู้ตัวดีว่า ตนเองตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และทางผู้บังคับบัญชา ก็เคยย้ำเตือนแล้วว่าไม่ควรกลับไปที่บ้านดูซงยอ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และก่อนหน้านี้ ในปลายปีที่ผ่านมา น้องชายของทหารพรานหญิงนูริซันก็เคยถูกลอบยิงจนเสียชีวิตมาแล้ว

ทางด้านพลโทศานติ ศกุตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการด่วนไปยังทุกหน่วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาให้ ผบ.ฉก. หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่กำชับกำลังพลซึ่งอยู่ในช่วงลาพัก ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษในห้วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฏอน

น่าผิดหวังที่แม่ทัพภาค 4 ซึ่งรับผิดชอบสถานการณ์ในพื้นที่โดยตรง กลับไม่มีคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อกดดันหรือตัดรอนขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้ามในการก่อ เหตุร้ายส่งท้ายรอมฎอน ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงไม่กี่วันข้างหน้า

เชื่อได้เลยว่า ชีวิตของทหารพรานหญิงนูริซันจะไม่ใช่ศพสุดท้ายที่สะท้อนถึงความล้มเหลวเชิงนโยบายในการแก้ปัญหาไฟใต้ของกองทัพ และจะต้องมีศพต่อๆ ไป โดยไม่สิ้นสุด ตราบใดที่ ทางการไทยยังเชื่อมั่นว่า การเจรจากับฝ่ายตรงข้าม คือหนทางที่ดีกว่าการปราบปรามขั้นเด็ดขาด

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android