xs
xsm
sm
md
lg

แรงซื้อ DELTA-GULF หนุนหุ้นไทยปิด +0.88 จุด โบรกฯ แนะจับตางบ บจ.-คดีการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดบางเบา +0.88 จุด นักวิเคราะห์เผยดัชนีปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีแรงซื้อกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส Q2/67 เช่นเดียวกับ DELTA และแรงซื้อหุ้นกลุ่ม GULF ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยประเมินแนวรับที่ 1,290-1,285 จุด ส่วนแนวต้าน 1,325-1,330 จุด แนะจับตาประเด็นการเมือง

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 ก.ค.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.88 จุด หรือ +0.07% โดยปิดตลาดที่ 1,3078.09 จุด มูลค่าซื้อขายราว 45,553.19 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในทิศทางบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยมีการแกว่งตัวลงไปแดนลบในช่วงเช้าเป็นเวลาสั้นๆ แต่ภาพรวมยังอยู่ในแดนบวก แม้ว่าช่วงท้ายตลาดจะย่อตัวลง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,315.78 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,306.22 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 259 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 131 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 258 หลักทรัพย์


ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,454.94 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -147.66 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -907.54 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า-399.74 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 6,297.03 ล้านบาท ปิดที่ 99.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.75 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,294.29 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,376.09 ล้านบาท ปิดที่ 230.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
4.GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,348.19 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,669.82 ล้านบาท ปิดที่ 83.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 3.13%
2.ADVANC ปิดที่ 230.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.32%
3.HANA ปิดที่ 47.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.17%
4.GULF ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.12%
5.INTUCH ปิดที่ 83.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.22%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 218.00 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 3.54%
2.CPN ปิดที่ 54.25บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 3.56%
3.SAPPEปิดที่ 90.75บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 2.16%
4.EGCO ปิดที่ 97.00บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 2.02%
5.CENTEL ปิดที่ 41.00บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.53%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,792.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.67 จุด หรือ 0.04% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 822.64 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด หรือ 0.16% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 327.65 จุด ลดลง -0.53 จุด หรือ -0.16%

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู่อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดี แต่แรงซื้อกระจุกตัว โดยเฉพาะกลุ่มขิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จากคาดการณ์งบไตรมาส 2/67 น่าจะออกมาดีเช่นเดียวกับ DELTA และกลุ่ม GULF-INTUCH-ADVANC โดย DELTA มีผลต่อดัชนีราว 8 จุด และเมื่อรวมกลุ่ม GULF จึงเป็น 10 จุด แต่โดยรวมยังไม่ค่อยแข็งแรง ขณะที่กลุ่มโรงแรม SCC และ PTTEP ปรับลงมาแรง

ขณะที่ภาพรวมไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา โดยตลาดรอติดตามงบการเงินไตรมาส 2/67 ของบริษัทจดทะเบียน และปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยในวันที่ 7 ส.ค.ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในคดียุบพรรคก้าวไกล และในวันที่ 14 ส.ค.นัดวินิจฉัยคดีคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ โดยพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) ประเด็นหลักที่ตลาดจับตามองอยู่ที่อัตราเงินเฟ้อโซนยูโร PMI จีน และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) 1 ส.ค.ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) 2 ส.ค. ตัวเลข ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และ 3 ส.ค.ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ

"แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ จาก Momentum ตลาดวันนี้น่าจะปรับขึ้นไปได้ต่อ หลังจากช่วงที่ผ่านมาดัชนีไม่ได้ลงไปทำนิวโลว์ที่จุดเดิม 1,290 จุด โดยให้แนวรับที่ 1,290-1,285 จุด แนวต้านที่ 1,325-1,330 จุด" นายวีระวัฒน์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น