หุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวขึ้นร้อนแรง +15.63 จุด นักวิเคราะห์เผยดัชนีรับข่าวภาคส่งออกเดือน มิ.ย.ของไทยแม้ยังแย่ แต่สินค้ากลุ่มยางพารา อาหารสัตว์เลี้ยง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวได้ดี ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มนี้ ทำให้บรรยากาศการลงทุนกลับมาสดใสหลัง GDP สหรัฐฯ ดีกว่าคาด ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาหน้ายังแกว่งตัวผันผวน แนวรับที่ 1,290 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,320 จุด แนะติดตาม PCE สหรัฐฯ และการเมืองในประเทศ
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 26 ก.ค.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +15.63 จุด หรือ +1.21% โดยปิดตลาดที่ 1,307.21 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,186.31 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีทยอยปรับตัวขึ้นตั้งแต่การซื้อขายในภาคเช้าจนกระทั่งปิดตลาดโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,307.21 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,290.48 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 374 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 153 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 125 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,454.94 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -147.66 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -907.54 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -399.74 ล้านบาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAPPE ปิดที่ 92.75บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 5.10%
2.ADVANCปิดที่ 227.00บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.79%
3.BH ปิดที่ 245.00บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 1.66%
4.INTUCHปิดที่ 82.00บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท หรือ 4.79%
5.PTTEPปิดที่ 147.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.08%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TOP ปิดที่ 50.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.96%
2.BCP ปิดที่ 32.00บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.29%
3.BSRC ปิดที่ 7.55 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 7.36%
4.SPRC ปิดที่ 7.50 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 5.06%
5.CPALL ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.44%
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,309.84 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
2.INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,413.66 ล้านบาท ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,752.46 ล้านบาท ปิดที่ 92.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,486.78 ล้านบาท ปิดที่ 227.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
5.FM มูลค่าการซื้อขาย 1,381.56 ล้านบาท ปิดที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.84 บาท
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,791.78 จุด เพิ่มขึ้น 23.05 จุด หรือ 1.30% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 821.29 จุด เพิ่มขึ้น 10.41 จุด หรือ 1.28% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 328.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ 1.24%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดีจากบรรยากาศการลงทุนกลับมาสดใส หลังการเปิดเผยตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
ขณะที่ตัวเลขภาคการส่งออกของไทยเดือน มิ.ย. แม้ติดลบแย่กว่าตลาดคาด แต่สินค้ากลุ่มยางพารา อาหารสัตว์เลี้ยง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวได้ดี ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้อง
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดแกว่งไซด์เวย์รอติดตามการประกาศผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการเมืองในประเทศ ขณะที่คืนนี้ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดมองว่า Core PCE อยู่ที่ 0.1% MoM และ 2.5% YoY ใกล้เคียงเดือน พ.ค. หากออกมาตามคาดจะเป็น Sentiment บวกกับตลาดหุ้น แต่คงบวกไปได้ไม่มากนักเพราะอยู่ในช่วงแจ้งงบ บจ. นอกจากนี้ วันที่ 31 ก.ค. ติดตามธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย โดยให้กรอบแนวรับ 1,290 จุด และแนวต้าน 1,320 จุด