xs
xsm
sm
md
lg

คลังย้ำอัดเงินเข้าระบบผ่าน Digital Wallet หนุนเศรษฐกิจ ประชาชนกว่า 45 ล้านคน ร้านค้า 2 ล้านร้านค้าใช้แอปรัฐบาลเชื่อมได้ทุกธนาคาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คลังเปิดเงื่อนไขโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือน ย้ำใช้แอป “ทางรัฐ” เป็นตัวเชื่อมโดยประชาชนกว่า 45-50 ล้านคน ใช้งบ 450,000 ล้านบาท ที่เข้าเงื่อนไข อายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้เกิน 840,000 บาท เปิดลงทะเบียนประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายน 2567 ลงทะเบียนร้านค้าวันที่ 1 ตุลาคม คาดมีร้านค้ากว่า 2 ล้านร้านค้า สินค้าที่ยกเว้น สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงความคืบหน้าสำคัญของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet (โครงการ) ว่าหลังจากรัฐบาลได้มีการพิจารณารายละเอียดโครงการอย่างรอบคอบ สอดคล้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำความเห็นหน่วยงานต่างๆ มาประกอบการพิจารณาอย่างรอบคอบและรัดกุมนั้น โครงการมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเมื่อเริ่มดำเนินโครงการแล้ว จะก่อให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจจำนวน 4 ลูก ได้แก่ พายุหมุนลูกที่ 1 การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก ถือเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจไปยังฐานราก กระจายไปพร้อมกันทุกอำเภอทั่วประเทศ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน พายุหมุนลูกที่ 2 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดเล็กกับร้านค้าขนาดใหญ่ และพายุหมุนลูกที่ 3 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่กับร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อยอดกำลังซื้อ การบริโภค หรือสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อประกอบอาชีพ และพายุหมุนลูกที่ 4 พลังการใช้จ่ายของประชาชนแต่ละคนจะเกิดผลต่อการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นทวีคูณ ช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 และมีกำหนดการที่จะให้เริ่มใช้จ่ายในโครงการภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567 เป็นการหารือเรื่องการจัดทำระบบเชื่อมข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบธนาคาร พร้อมยืนยันว่าดิจิทัลวอลเล็ต จะเชื่อมต่อทุกระบบจ่ายเงินออนไลน์รวมถึงระบบวอลเล็ตด้วย การหารือกันเรื่องของการทํา Open Loop ระหว่างสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thailand E-Payment Trade Association : TEPA) ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อจัดทำระบบการชำระเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนวิธีการจะเชื่อมต่ออย่างไร เชื่อมต่อแบบไหน รวมถึงการยืนยันตัวตนและการให้ยินยอมความเป็นส่วนตัว ทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุป

“การใช้จ่ายดิจิทัลวอลเล็ตจะสามารถใช้จ่ายผ่านแบงก์ของรัฐ-แบงก์พาณิชย์ และวอลเล็ตต่างๆ ได้อย่างแน่นอน ซึ่งการใช้จ่ายดิจิทัลวอลเล็ตจะปรากฏอยู่บนแอปธนาคารและวอลเล็ตทุกประเภทที่เข้าร่วม โดยจะใช้แอปพลิเคชันชื่อว่า ‘ทางรัฐ’ เป็นตัวเชื่อม ยืนยันว่าการจัดทำระบบทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ในส่วนของผู้ได้สิทธิ แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน ยืนยันว่าจะสามารถใช้เงินดิจิทัลผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้อย่างแน่นอน ซึ่งอยู่ระหว่างการวางระบบ รวมทั้งกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องการจะรับสิทธิ แต่ไม่สามารถใช้จ่ายเองได้ ต้องมีการมอบสิทธิ ตรงนี้ต้องไปดูระบบให้ครอบคลุม ไม่ให้รั่วไหล ซึ่งจากฐานข้อมูลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีผู้มีสิทธิในกลุ่มนี้อยู่ราวๆ ล้านคน” นายจุลพันธ์ กล่าว

เงื่อนไขโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet นั้นหลังหารือทํา Open Loop เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใช้จ่ายผ่านระบบแอปพลิเคชันได้ทุกธนาคารและระบบวอลเล็ต โดยใช้แอปของรัฐบาลเป็นตัวเชื่อมโดยประชาชนกว่า 45-50 ล้านคน ที่ใช้งบ 450,000 ล้านบาท ประชาชนที่เข้าเงื่อนไข อายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้เกิน 840,000 บาท เปิดลงทะเบียนประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายน 2567 จะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” บนสมาร์ทโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิในโครงการ กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด ระหว่างวันที่ 16 กันยายน-15 ตุลาคม 2567 ลงทะเบียนร้านค้า ในเบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม คาดมีร้านค้ากว่า 2 ล้านร้านค้า สินค้าที่ยกเว้น สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการประชุมในระดับนโยบายของหน่วยงานที่มีส่วนร่วมกับในระบบนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยม และเห็นด้วยกับการเชื่อมต่อในลักษณะนี้ โดยเฉพาะ TEPA ที่เป็นระบบวอลเล็ต แบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรแล้วในขณะนี้ และจะมีการหารือในที่ประชุมอีกวงหนึ่งในเชิงเทคนิคต่อไป

“กรอบเบื้องต้นให้เห็นภาพคือ ในแอปพลิเคชันของธนาคาร ตัวดิจิทัลลวอลเล็ตจะเป็นอีกไอคอนที่อยู่ในแอป เพื่อสะดวกกับการใช้งานก็กดใช้เลือก โดยจะเป็นไอคอนแยกต่างหากที่จะผูกอยู่กับแอปแบงก์” นายเผ่าภูมิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น