“ภูมิธรรม” เผยความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ล่าสุดมีมากถึง 1,604,000 ราย/แห่งที่มีสิทธิ์เข้าร่วม เตรียมเปิดลงทะเบียน ส.ค.นี้ ยันไม่เอื้อผู้ประกอบการรายใหญ่ ได้สิทธิ์แค่ร้านสะดวกซื้อ 50,000 แห่งเท่านั้น ส่วนสินค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท เว้น 18 รายการ แต่มีสิทธิ์ปรับเปลี่ยนได้ หากจำเป็นต่อประชาชน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมร้านค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่คาดว่าจะเริ่มในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมด้านร้านค้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนที่กระทรวงพาณิชย์ มีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมการค้าภายใน เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลร้านค้า ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้มีการส่งฐานข้อมูลร้านค้าให้กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. เพื่อรวบรวมในฐานข้อมูลกลาง เพื่อเตรียมความพร้อมลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันแล้ว
ทั้งนี้ รายละเอียดของร้านค้า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีนิติบุคคลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 910,000 ราย ซึ่งในนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจอยู่เป็นจำนวนมาก มีร้านธงฟ้า 146,000 แห่ง และร้านอาหารธงฟ้า 5,000 แห่ง ที่กรมการค้าภายในดูแล มีร้านค้า (โชวห่วย) หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าอาหาร ร้านค้าตลาดนัด ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ดูแล 400,000 แห่ง มีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล 93,000 แห่ง และห้างค้าส่ง-ปลีก และร้านสะดวกซื้อ ที่สมาคมค้าปลีกไทยดูแล โดยดำเนินการผ่านกระทรวงพาณิชย์ 50,000 แห่ง
โดยกำหนดการลงทะเบียน เบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2567 ที่จะเปิดลงทะเบียนกลุ่มร้านค้า สมาคมค้าปลีก-ค้าส่ง ตามด้วยกลุ่มซัปพลายเออร์ และร้านค้าทั่วไป
ส่วนกรณีที่มีการมองว่าการลงทะเบียนร้านค้า เอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ ขอชี้แจงว่า การดำเนินการไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะจะเน้นร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งร้านค้าบุคคลธรรมดา ร้านธงฟ้า ร้านกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าปลีกและร้านโชวห่วยท้องถิ่น ร้านสหกรณ์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน โอทอป ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของชำ มีสิทธิ์หมด รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
สำหรับสินค้าสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท โดยได้กำหนดสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ หรือ Negative List จำนวน 18 รายการ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือสื่อสาร แต่กระทรวงพาณิชย์สามารถพิจารณาปรับปรุงรายการสินค้า Negative List หากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิดที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้สร้างอาชีพ
