ทุนญี่ปุ่นขยายอาณาจักร รุกธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย "SC x Tokyo" เดินหน้าร่วมทุนต่อเนื่อง ลุยธุรกิจคลังสินค้า-โรงงานให้เช่านำร่อง 2 ทำเลศักยภาพ SCX บางนา กม.20 และ SCX แหลมฉบัง รองรับการเติบโตธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ด้านค่าย "เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์" ผนึกทุนยักษ์ญี่ปุ่น MORI TRUST บุกไทยครั้งแรก เตรียมปั้นโครงการแนวราบระดับลักชัวรี กรุงเทพกรีฑา คาดเริ่มก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทิศทางการเติบโตอย่างยั่งยืนของ SC ในทศวรรษที่ 3 (ปี 2024-2033) คือ สร้างคุณค่าสู่คนและสิ่งแวดล้อมบนหลากหลายธุรกิจ ความหลากหลายของธุรกิจจะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยืดหยุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวน และการลงทุนในธุรกิจ คลังสินค้า-โรงงานเพื่อเช่า เป็น 1 ในยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอให้ SC (recurring income) ธุรกิจนี้ มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะได้แรงสนับสนุนจากการเติบโตของ e-commerce ในประเทศไทย โดยตลอด 10 ปีนี้ SC ตั้งเป้าหมายพัฒนาคลังสินค้า-โรงงานให้เช่า รวม 1 ล้านตารางเมตร ครั้งนี้ Tokyo Tatemono และ SC ตัดสินใจร่วมลงทุนพัฒนาคลังสินค้า-โรงงานให้เช่ารวม 126,704 ตารางเมตร ในทำเลบางนา กม.20 และแหลมฉบัง เป็นการร่วมทุนครั้งที่ 2 ต่อยอดความสำเร็จจากการร่วมทุนครั้งแรกในธุรกิจคอนโดมิเนียม และเราจะมีการร่วมทุนครั้งต่อไปอีกในอนาคต เพราะเรามีวิสัยทัศน์ ทัศนคติ และความรู้ประสบการณ์ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กันและกันเป็นอย่างดี
Tokyo Tatemono เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าจากประเทศญี่ปุ่น มีสถานะการเงินที่มั่นคง โดยมีทุนจดทะเบียน 22,000 ล้านบาท และมีทรัพย์สินกว่า 460,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 และมีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาฯ ที่หลากหลายต่อเนื่องยาวนานมากว่า 128 ปี
นายฟุมิโอะ ทะจิมะ กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในการลงทุนโลจิสติกส์ในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค และมีกำลังการบริโภคสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งคาดว่าในปี 2569 ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 รวมทั้งประเทศไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของเครือข่ายการขนส่งของภูมิภาค และภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้ไทยเป็นฐานการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกไปทั่วโลก จึงทำให้ตลาดโลจิสติกส์ในประเทศไทยมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก
การร่วมทุนครั้งนี้ SC และ Tokyo Tatemono ได้วางแผนพัฒนาโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า 2 โครงการ ใน 2 ทำเล ได้แก่ SCX บางนา กม.20 ย่านบางนา ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพใกล้ใจกลางกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นหนึ่งในทำเลที่มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โครงการนี้จะมีคลังสินค้าทั้งหมด 5 อาคาร รวม 15 ยูนิต โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 78,252 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 เฟส เฟสแรกมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2568 เฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 ในเดือนเมษายนและธันวาคม 2568 และเฟสที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569
อีกโครงการ คือ SCX แหลมฉบัง ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าสำหรับเก็บชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปต่างประเทศ โครงการนี้จะมีคลังสินค้าทั้งหมด 3 อาคาร รวม 10 ยูนิต โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวม 46,602 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกและเฟสที่ 2 จะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม 2568 และเฟสที่ 3 ในเดือนมกราคม 2569
MORI TRUST บุกไทย ผนึก MJD ลุยบ้านหรู
น.ส.เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าได้ร่วมลงนามในสัญญาร่วมทุน กับ น.ส.มิวาโกะ ดาเตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ MORI TRUST ประเทศญี่ปุ่น โดยการร่วมทุนในครั้งนี้จะเริ่มต้นที่โครงการ มอลตัน เกสต์ กรุงเทพกรีฑา 2 มูลค่าโครงการ ประมาณ 2,100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี พ.ศ.2567 ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จในการพัฒนาโครงการแนวราบของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มเป้าหมาย โดยจะเริ่มดำเนินการเปิดขายโครงการได้ในช่วงต้นปี พ.ศ.2568
MORI TRUST เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น โดยพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ในมหานครโตเกียว และดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตหลากหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด "Craft the Future" นอกจากนี้ MORI TRUST ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 66 แห่ง ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงโรงแรมและรีสอร์ต 31 แห่ง โดยมีธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ การพัฒนา อสังหาฯ การพัฒนาโรงแรมและรีสอร์ต และการลงทุน
น.ส.มิวาโกะ ดาเตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ MORI TRUST ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือกับเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ นับว่าโครงการนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งแรกของ MORI TRUST ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีในต่างประเทศ เราดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามกลยุทธ์ "Advance 2030" ในระยะกลางถึงระยะยาว โดยมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างแข็งขันต่อไป