ผลสำรวจพบนักศึกษาเกาหลีใต้สนใจสินทรัพย์ดิจิตอลอย่างเช่นบิตคอยน์มากขึ้น โดย 40% ลงทุนในโทเคนและหุ้น กว่าครึ่งในจำนวนนี้เผยเลือกคริปโตเพราะอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังสูง และ 1 ใน 5 เชื่อว่า จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต
ตามรายงานของ Delighti การสำรวจความคิดเห็นนี้จัดทำโดยโคเรีย อินเวสต์เมนต์ แอนด์ ซีเคียวริตี้ส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวาณิชธนกิจและโบรกเกอร์ในเกาหลีใต้ โดยสัมภาษณ์นักศึกษากว่า 400 คนระหว่างวันที่ 11-22 มิถุนายน
นักวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 72% บอกว่า ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่ซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดนิวยอร์ก (New York Stock Exchange - NYSE) ซึ่ง 89% ในจำนวนนี้เผยว่า ต้องการขยายพอร์ตในอนาคต
แม้แต่กลุ่มที่ไม่ได้ลงทุนใน NYSE ยังระบุว่า ต้องการซื้อหุ้นบริษัทสหรัฐฯ โดย 87% มีแผนลงทุนภายใน 12 เดือนข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสำรวจ 40% เผยว่า ลงทุนทั้งหุ้นและสินทรัพย์คริปโต ซึ่งกว่าครึ่งในจำนวนนี้ระบุว่า เลือกคริปโตเพราะโทเคนมีอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังสูง และ 1 ใน 5 เชื่อว่า สกุลเงินดิจิตอลจะมีมูลค่าสูงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม มีผู้ตอบแบบสำรวจเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่บอกว่า ลงทุนในตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย เช่น มีแค่ 5% ลงทุนในญี่ปุ่น และ 3% ลงทุนในจีน
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า หนุ่มสาวเกาหลีใต้ศรัทธาในตลาดหุ้นในประเทศน้อยมาก หนึ่งในเหตุผลหลักที่นักศึกษาเหล่านี้ลงทุนในหุ้นต่างประเทศคือ บริษัทต่างชาติมีความผันผวนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นบริษัทเกาหลีใต้
Delighti ตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบันนักศึกษาที่คิดอ่านเอาเงินไปลงทุนต่อยอดมีจำนวนมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
คริปโตนิวส์ยังอ้างอิงผลสำรวจของโคเรีย อินเวสต์เมนต์ แอนด์ ซีเคียวริตี้ส์เมื่อสองปีก่อนที่บ่งชี้ว่า นักศึกษาเกาหลีใต้ลงทุนก้อนใหญ่ขึ้น
ในการสำรวจปี 2022 ผู้เข้าร่วมกว่า 18% บอกว่า เริ่มลงทุนอย่างน้อยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ตัวเลขในการสำรวจล่าสุดเพิ่มเป็น 54%
ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ลงทุนกว่า 3,590 ดอลลาร์ แต่มีถึง 40% ที่ลงทุนเป็นมูลค่ากว่า 7,180 ดอลลาร์
นอกจากนั้นผลสำรวจยังพบว่า นักศึกษากว่า 17% กู้เงินไปซื้อหุ้นและคริปโต
นักศึกษาเกาหลีใต้ยังลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ เช่น สินทรัพย์ที่คุ้มครองเงินต้น, กองทุน ETF, กองทุน และพันธบัตร
ผลสำรวจตอกย้ำว่า หนุ่มสาวเกาหลีใต้จำนวนมากมีศรัทธาน้อยมากในระบบต่างๆ เช่น ระบบเงินบำนาญ บัญชีเงินฝาก และตลาดหุ้นในประเทศ
การสำรวจความคิดเห็นคนกลุ่มอายุ 20-39 ปีเมื่อเดือนเมษายนพบว่า กว่า 3 ใน 4 ไม่ไว้ใจระบบบำนาญของรัฐ และกว่า 52% บอกว่า เอาเงินไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร กองทุน และสินทรัพย์คริปโตแทน