พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ปรับใหญ่ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะในแพลตฟอร์มสำหรับไฟร์วอลล์ คลาวด์ และศูนย์สั่งการความปลอดภัยไซเบอร์ ลุยเร่งเครื่องระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์อัตโนมัติ มั่นใจระบบผู้ช่วยอัจฉริยะใหม่ช่วยเสริมศักยภาพทีมไซเบอร์ซิเคียวริตี ยกระดับปลอดภัยเหนือชั้นยิ่งขึ้น
ลี คลาริช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า เพราะ GenAI เป็นที่รู้จักในกระแสหลัก บริษัทจึงมีวิสัยทัศน์ว่า เทคโนโลยีดังกล่าวอาจกลายเป็นเครื่องมืออันน่าอัศจรรย์ที่จะทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทำงานได้เอง เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ทำหน้าที่ได้มากกว่าแค่การตอบคำถามทั่วไป และน่าจะใช้ในการสั่งงานได้ด้วยอีกทาง
"ดังนั้น เราจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่เพิ่มเติมเพื่อทำให้ปณิธานที่ว่าเป็นจริง เมื่อผสาน GenAI เข้ากับเทคโนโลยีสำคัญด้านอื่นๆ ก็ทำให้ระบบทำงานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น และสามารถจัดการงานได้เอง นี่เป็นก้าวแรกในการทำให้วิสัยทัศน์ของเราเป็นจริง โดยมีตัวช่วยสำคัญคือ ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย Precision AI ที่เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้อย่างก้าวกระโดด"
พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ถือเป็นผู้นำด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก ล่าสุดบริษัทเผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำงานได้ในทุกขั้นตอนอย่างอัตโนมัติ โดยแนะนำระบบผู้ช่วยอัจฉริยะแบบใหม่ 3 ระบบ ที่ผสานขุมพลังแห่ง GenAI (Generative AI) เข้ากับชุดเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีความแม่นยำสูง ได้แก่ Strata Copilot ไฟร์วอลล์แพลตฟอร์ม Prisma Cloud Copilot คลาวด์แพลตฟอร์ม และ Cortex Copilot แพลตฟอร์มสำหรับศูนย์สั่งการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (SOC) ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับแพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์
"ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Precision AI ที่ช่วยลดภาระอันซับซ้อนในแต่ละวัน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่ทีมรักษาความปลอดภัยได้อย่างเหนือชั้น"
ปัจจุบัน GenAI ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีแห่งความหวังที่สามารถใช้จัดการกับงานด้านความปลอดภัยเฉพาะทาง ภายใต้การทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสำคัญด้านอื่นๆ เช่น ระบบอัตโนมัติแบบพร้อมใช้ แมชีนเลิร์นนิง มาตรการจำกัดขอบเขตการเรียนรู้ของระบบ และการปรับจูนโมเดล เป็นต้น ทั้งนี้ Precision AI เป็นนวัตกรรมด้าน AI ภายใต้สิทธิบัตรของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ที่ผสาน GenAI เข้ากับแมชีนเลิร์นนิง (ML) และดีปเลิร์นนิง (DL) จนได้เป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ประโยชน์จากข้อมูลรอบด้าน และมีขั้นตอนปฏิบัติงานที่ได้รับการยอมรับ เพื่อการทำงานแบบอัตโนมัติบนพื้นฐานของข้อมูลเชิงลึกที่ใช้งานได้จริง
ในอีกด้าน Generative AI จะช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยขององค์กรทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการสื่อสารด้วยภาษาทั่วไป ซึ่งทำให้สมาชิกในทีมอีกหลายคนสามารถดึงข้อมูลการทำงานจากไฟร์วอลล์และเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทั้งหมดออกมาได้อย่างสะดวกภายใต้อินเทอร์เฟซภาษาธรรมชาติ ทำให้มีประโยชน์อย่างมากในการรับมือกับภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว ตลอดจนช่วยตอบคำถาม และข้อสงสัยต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น