เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น กำไรสุทธิ 116.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.46% นิวไฮต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งมอบงานขนาดใหญ่ได้ตามกำหนด บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.18 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 26 เมษายน 2567 นี้ ฟากซีอีโอปักธงปี 67 รายได้โต 35% จาก Backlog 2,109 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหญ่ทั้งภาครัฐ เอกชน เต็มเหนี่ยว
นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TPS) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566) บริษัทมีกำไรสุทธิ 116.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.54 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.46% เทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 75.83 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และมีรายได้รวม 1,362.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 375.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38.10% เทียบกับปีก่อนมีรายได้รวม 986.86 ล้านบาท
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้จากธุรกิจจำหน่าย และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย รวมทั้งรายได้จากงานก่อสร้างในส่วนของบริษัทย่อย
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีการอนุมัติให้จ่ายปันผลงวดประจำปี 2566 ให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด 0.18 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 เมษายน 2567 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2567
“ปี 2566 TPS และบริษัท เดอะวิน เทเลคอมฯ บริษัทย่อยสามารถดำเนินธุรกิจได้เป็นไปตามแผน ทั้งแง่ของรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยส่งมอบงานขนาดใหญ่ให้ภาครัฐและภาคเอกชนได้ตามกำหนด พร้อมกับมีรายได้เพิ่มจากงานให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ตามนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัท” นายบุญสม กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 35% จากปีก่อน สร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท โดยปัจจุบันมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 2,109 ล้านบาท รวมทั้ง TPS และ บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะงานภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากภาครัฐ 40% และภาคเอกชน 60%
ขณะที่ธุรกิจไซเบอร์ซิเคียวริตี (Cyber Security) และบล็อกเชน (Blockchain) เร่งขยายการให้บริการครอบคลุมในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมรุกขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเติม เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และระบบ AI ที่ปัจจุบันหลายองค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และมุ่งสู่การเป็นเทค-คอมพานี (Tech company) อย่างครบวงจร