เบื้องหลังการถูกถล่มขายอย่างหนักของหุ้นร้อนบริษัทจดทะเบียนนับสิบบริษัท เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันแล้วว่าเกิดจากผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท นำหุ้นที่ตัวเองถืออยู่ไปวางเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อเพื่อการซื้อหุ้นหรือมาร์จิ้น
เมื่อราคาหุ้นตกต่ำ และไม่มีหลักทรัพย์ไปวางค้ำประกันเพิ่ม จึงถูกบริษัทหลักทรัพย์บังคับขายหุ้น หรือ FORCE SELL จนหุ้นลงกันระเนระนาด
ปัจจุบัน มีผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนจำนวนมากตกอยู่ในสภาพร้อนเงิน ส่วนหนึ่งอาจเดือดร้อนจากปัญหาส่วนตัว อีกส่วนหนึ่งต้องการนำเงินไปพยุงราคาหุ้นไม่ให้ตกต่ำมากเกินไป
ช่องทางในการหาเงินมาเสริมสภาพคล่องโดยทั่วไปของผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนคือ นำหุ้นที่ถืออยู่ไปเป็นหลักทรัพย์ขอวงเงินมาร์จิ้นจากบริษัทโบรกเกอร์ ซึ่งมีหลายแห่งที่ปล่อยวงเงินมาร์จิ้นเป็นล่ำเป็นสัน
แต่อีกช่องทางหนึ่งคือ นำหุ้นขายให้นักลงทุนสถาบันต่างชาติ โดยอาจมีสัญญาซื้อคืนภายในระยะเวลาหนึ่ง หรือนำหุ้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อขอวงเงินกู้จากผู้ปล่อยกู้ต่างชาติ และมีข้อตกลงต้องเบิกใช้เงินกู้เต็มจำนวนที่ขอกู้ภายในช่วงเวลาที่กำหนด
หุ้นที่ขายให้สถาบันต่างชาติอาจแบ่งสัดส่วนจำนวน 10% ของทุนจดทะเบียน ส่วนหุ้นที่นำไปวางเป็นหลักค้ำประกันขอเงินกู้จะต้องใช้หุ้นจำนวนมาก ประเมินมูลค่าหุ้นรวมต้องสูงกว่าวงเงินที่ขอกู้หลายเท่าตัว
ทั้งการแบ่งหุ้นขายให้สถาบันต่างชาติ ทั้งการนำหุ้นจำนำให้ต่างชาติ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนได้เงินเข้ามาหมุนในยามฝืดเคือง กลายเป็นหอกที่เข้ามาทิ่มแทงเจ้าของหุ้นในภายหลัง
เพราะสถาบันต่างชาติที่ซื้อหุ้นไปไม่ได้ถือหุ้นไว้เพื่อการลงทุนระยะยาว แต่นำหุ้นเทขายในกระดาน จนราคาหุ้นทรุดตัวลง ก่อนจะซื้อคืนกลับในราคาต้นทุนต่ำ โดยเป็นการขายในลักษณะ SHORT SELL เพียงแต่ไม่ต้องยืมหุ้นจากใครเท่านั้น เพราะมีหุ้นอยู่ในมือพร้อมจะทุบขายอยู่แล้ว
การเทขายหุ้นราคาสูงในลักษณะทุบหุ้นให้ลง ก่อนซื้อกลับคืนในราคาต่ำ ทำให้สถาบันต่างชาติที่เข้ามาซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่หรือเจ้าของบริษัทจดทะเบียนสามารถทำกำไรจากการซื้อขายได้หลายรอบ หอบเงินจากตลาดหุ้นไทยขนกลับบ้านไป หลังจากขายทิ้งหุ้นครั้งสุดท้ายจนหมดมือ
จุดจบของบริษัทจดทะเบียนที่ผู้ถือหุ้นใหญ่แบ่งขายหุ้นให้สถาบันต่างชาติคือ หุ้นตกอยู่ในสภาพตายซาก ราคาหล่นลงไปกองกับพื้น และหมดความน่าสนใจจากนักลงทุนทั่วไป
เพราะปัจจัยพื้นฐานหุ้นไม่ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ราคาหุ้นยังผันผวนรุนแรง ทรุดลงอย่างน่ากลัว จนนักลงทุนทั่วไปไม่กล้าซื้ออีกด้วย
หุ้นร้อนหลายตัวที่กำลังมีสภาพตายซาก ราคาลงไปลึกสุดกู่ ส่วนหนึ่งเกิดจากเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนชักศึกเข้าบ้าง เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาถล่มหุ้นตัวเองจนพังพินาศ
ส่วนเจ้าของหุ้นไปไม่รอด ต้องเทขายหุ้นทิ้ง เก็บเงินก้อนสุดท้ายออกจากตลาดหุ้น ลอยแพผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนนับพันนับหมื่นชีวิตให้เผชิญกับหายนะ
ขณะที่การนำหุ้นไปจำนำในลักษณะขายฝากให้ต่างชาติ เจ้าของหุ้นที่นำหุ้นไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาเงินกู้อย่างเคร่งครัด ทั้งเงื่อนเวลาการชำระคืน และการใช้วงเงินที่ขอกู้ให้ครบตามจำนวน
ถ้าผิดเงื่อนไขข้อตกลง ต่างชาติผู้ปล่อยกู้จะบังคับขายหุ้นทันที โดยไม่มีความเมตตาปรานี ไม่ต้องกังวลว่าราคาหุ้นจะร่วงไปขนาดไหน และไม่ต้องคำนึงถึงความเสียหายของนักลงทุนภายในประเทศ
หุ้นบางตัวที่เดี้ยง ต้นเหตุเกิดจากเจ้าของบริษัทจดทะเบียนนำหุ้นไปขายฝากต่างชาติ ได้เงินมาหมุนในระยะสั้น แต่บริษัทและหุ้นตัวเองพังอย่างถาวร
โปรแกรมการซื้อขายหุ้น หรือ ROBOT TRADE การ SHORT SELLและ NAKED SHORT หรือการขายโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ อาจเป็นผู้ร้ายที่ทุบหุ้นในสายตานักลงทุน
แต่ผู้ร้ายตัวใหม่ล่าสุดที่ถล่มหุ้นจนแหลกลาญ แดงเถือกเต็มกระดานหุ้นคือ FORCE SELL
เจ้าของหุ้นนับสิบๆ ตัวกำลังเผชิญชะตากรรมถูก FORCE SELL นักลงทุนที่ถือหุ้นต้องรับเคราะห์ เผชิญกับหายนะครั้งใหญ่จาก FORCE SELL ปะทุทั่วตลาดหุ้น