บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS แจ้งผลประกอบการปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 ก่อนเปิดการซื้อขายหุ้นวันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผลขาดทุนมโหฬาร ทำให้นักลงทุนแห่เทขายหุ้นทิ้งกันฝุ่นตลบ
BTS แจ้งผลขาดทุน 5,241.24 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,836.48 ล้านบาท โดยผลการขาดทุนหลักๆ เกิดจากผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทร่วม ประกอบด้วย บริษัท เคอรี่ เอ๊กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX
บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT
การดำเนินงานทั่วไปยังมีกำไร แต่ถูกฉุดด้วยผลขาดทุนของเงินลงทุนในบริษัทย่อย จนผลประกอบการโดยรวมทรุดฮวบลง
ราคาหุ้น BTS รูดลงทันทีหลังเปิดการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเปิดที่ราคา 5.70 บาท และถูกแรงขายกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 4.80 บาท ลดลง 1.05 บาท หรือลดลง 17.85% มูลค่าซื้อขาย 7,227.59 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน
ราคาปิดเมื่อวันศุกร์ถือเป็นจุดต่ำสุดใหม่ในรอบหลายปี โดยช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หุ้น BTS เคยหลุดลงมาต่ำกว่า 5 บาทครั้งหนึ่งแล้ว แต่หลังจากนั้นปรับตัวขึ้น จนมายืนเหนือ 6 บาทอยู่พักใหญ่ ก่อนแจ้งผลประกอบการที่น่าตื่นตกใจออกมา จุดชนวนการเทขายในลักษณะหนีตาย
จนราคาลงมาแตะจุดต่ำสุดใหม่ หรือนิวโลว์ในรอบหลายปี
BTS จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงหลายปีติดต่อ จนอยู่ในข่ายหุ้นที่ถือลงทุนระยะยาวได้ แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ประกาศงดจ่ายเงินปันผล เนื่องจากผลประกอบการขาดทุน และเป็นการขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทย่อย
จนนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ๋ BTS ถูกพูดถึงว่า ลงทุนอะไรก็เจ๊ง เก่งแต่ธุรกิจรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
ผู้ถือหุ้นรายย่อย BTS มีจำนวนทั้งสิ้น 107,896 ราย มากที่สุดรองจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 1.6 แสนราย โดยผู้ถือหุ้นรายย่อย BTS ส่วนใหญ่แบกหุ้นต้นทุนสูง และติดดอยอยู่
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสแรกปี 2567 ซึ่งมีผลการขาดทุนที่น่าตกใจ จนนักลงทุนถล่มขายหุ้นทิ้ง ทำให้หุ้นหลายกลุ่มร่วงกันระเนระนาด และยังโงหัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA
BTS เป็นหุ้นตัวล่าสุดที่ต้องสังเวย ผลประกอบการที่ออกมายอดแย่ ขาดทุนยับจากการนำเงินสดที่เหลือใช้ขนไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัทอื่น จนเกิดความเสียหาย
บทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ปรับประมาณการราคาเป้าหมาย BTS โดยประมาณการเดิม ตั้งราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ 3 โบรกเกอร์อยู่ที่ 6.59 บาท โดยมีบางโบรกเกอร์ตั้งราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 7.20 บาท แต่บางโบรกเกอร์ตั้งราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 6.20 บาท
วันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้น BTS ได้ตอบรับข่าวร้าย ซึมซับรับผลประกอบการที่ขาดทุนหนัก ราคาหุ้นดิ่งลงเหวลึกไปแล้ว
คำถามของนักลงทุนรายย่อยกว่า 1 แสนราย ที่โดยสารมากับขบวนรถไฟฟ้า BTS อย่างเนืองแน่นคือ
หุ้น BTS ยังจะทรุดต่อไหม และจะลงไปสร้างนิวโลว์ที่ราคาไหน
