SABUY จะรอดได้อย่างไร / สุนันท์ ศรีจันทรา

วิกฤตตลาดหุ้นรอบนี้ ทำให้หุ้นตัวเล็กตัวใหญ่ร่วงกันยกแผง แดงกันทั้งกระดาน แต่หุ้นที่อาการน่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ หุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ซึ่งราคาดิ่งลงเหว ผลประกอบการทรุดหนัก และมีหนี้หุ้นกู้จำนวนหลายพันล้านบาทรอชำระคืนในปีนี้

SABUY กำลังขาดเจ้าภาพหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ หลังจากนายชูเกียรติ รุจนพรพจี ได้ทยอยขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานการขายหุ้น SABUY ออกอีกจำนวน 2.39% ของทุนจดทะเบียน และเหลือสัดส่วนการถือหุ้นอยู่เพียง 2.99% 

จากผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง นายชูเกียรติกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยไปแล้ว และไม่จำเป็นต้องรายงานการขายหุ้นที่เหลืออยู่ประมาณ 2.99%

วิบากกรรมหุ้น SABUY เริ่มต้นขึ้นหลังประกาศผลประกอบการปี 2566 โดยมีผลขาดทุน 189.83 ล้านบาท จุดชนวนการเทขายหุ้น จนราคารูดลงแรงต่อเนื่อง และถูกซ้ำเติมด้วยการประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ปรากฏว่า ขาดทุนมโหฬารจำนวน 1,960.72 ล้านบาท

หุ้น SABUY ถูกถล่มยับ นักลงทุนเทขายทิ้ง ราคาหุ้นร่วงจนติดพื้น โดยลงไปต่ำสุดนับจากเข้าจดทะเบียนที่ 83 สตางค์ ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ปิดที่ 95 สตางค์

นายชูเกียรติ อาจถอดใจในการนำพา SABUY ฝ่าวิกฤตใหญ่ที่ถาโถมเข้ามา ทั้งเรื่องผลประกอบการที่ทรุดหนัก ภาระหนี้หุ้นกู้ที่ใกล้เวลาชำระคืน จึงทยอยขายหุ้นออก จนลดฐานะตัวเองเป็นเพียงนักลงทุนรายย่อยคนหนึ่งของ SABUY

อนาคตของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ฝากไว้กับแผนการเพิ่มทุน ซึ่งคณะกรรมการ SABUY แจ้งมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ประกาศเพิ่มทุนจำนวน 2,510 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท โดยนำหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายบุคคลในวงจำกัด และรองรับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ หรือวอร์แรนต์

หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,200 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้แก่ Lightnet Pte. Ltd ในราคาหุ้นละ 2.30 บาท และอีก 100 ล้านหุ้น จะขายให้นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ SABUY ในราคาหุ้นละ 2.30 บาท และจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติอนุมัติเพิ่มทุนในวันที่ 24 มิถุนายนนี้

เงินเพิ่มทุนจำนวนหนึ่งจะถูกจัดสรรเพื่อชำระหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้ วงเงินประมาณ 2,900 ล้านบาท

 SABUY จะได้ไปต่อ หรือต้องหยุดเพียงแค่นี้ ผู้ถือหุ้นกู้จำนวนหลายพันราย ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 2.3 หมื่นราย ต้องลุ้นระทึกว่า LIGHTNET จะยอมควักเงินจำนวนประมาณ 5,000 ล้านบาท ซื้อหุ้น SABUY หรือไม่ 

ในเมื่อราคาหุ้นบนกระดานร่วงลงมาต่ำกว่า 1 บาท LIGHTNET จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคา 2.30 บาทไปทำไม และไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องซื้อหุ้นเพิ่มทุน SABUY อีกด้วย

อนาคต SABUY ต้องยอมรับความจริงว่า มืดมน ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อยคงต้องเตรียมใจไว้ล่วงหน้าสำหรับความเสียหายที่คืบคลานเข้ามา

หุ้น SABUY อาจไม่มีความหวังอะไรที่รอคอยแล้ว แต่ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างร้อนแรง เพราะบางวันที่มีแรงซื้อ ลากราคาทะยานขึ้นไป ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายคึกคักระดับร้อยล้านบาท หรือบางวันหลายร้อยล้านบาท

นักเก็งกำไรอาจยังสนุกสนานกับการเข้าไปแลกหมัดวัดดวงกับ SABUY โดยรู้ทั้งรู้ว่า SABUY เป็นหุ้นที่น่าห่วงที่สุดในตลาดหุ้นเวลานี้