การประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ซึ่งควรจะเป็นข่าวดีของหุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เพราะผลกำไรเติบโตเกือบ 200% แต่กลับกลายเป็นข่าวร้าย ซึ่งจุดชนวนสู่การเทขายหุ้นอย่างหนัก จนราคาทรุดฮวบลง
MGI แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรก หลังปิดการซื้อขายหุ้นวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 21.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176.99% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 7.65 ล้านบาท
ผลกำไรที่พุ่งทะยานถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น MGI แต่ปรากฏว่า ทันทีที่เปิดการซื้อขายหุ้นวันที่ 10 พฤษภาคม หุ้นถูกเทขายอย่างหนัก และลงไปต่ำสุดที่ 23.90 บาท ก่อนกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 25.75 บาท ลดลง 3.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 325.12 ล้านบาท
สาเหตุที่ข่าวดีกลับกลายเป็นข่าวร้าย และผลกำไรไตรมาสแรกที่เติบโตก้าวกระโดด ซึ่งราคาหุ้นควรจะปรับตัวขึ้นขานรับ แต่กลับดิ่งแรงอย่างแรง เป็นเพราะราคาหุ้นก่อนหน้าพุ่งขึ้นไปสูงมาก และสูงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานรองรับ ดังนั้น แม้ว่าผลประกอบการจะออกมาดีตามความคาดหมาย
แต่นักลงทุนก็แห่กันเทขายโดยขายในลักษณะ SELL ON FACT หรือการขายหุ้นเมื่อมีข่าวดี เพราะถือว่าในระยะสั้นหุ้นหมดข่าวดีแล้ว จึงไม่มีปัจจัยกระตุ้นการเก็งกำไร
MGI เคยถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 65.25 บาท จนค่าพี/อี เรโช พุ่งขึ้นไปเฉียด 100 เท่า ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมา ท่ามกลางข่าวบรรดานักลงทุนรายใหญ่ที่ได้รับโควตาจัดสรรหุ้นจองในราคาต่ำได้ทยอยถล่มขายหุ้น และโกยกำไรไปก้อนโต โดยบางคนฟาดกำไรไปหลายร้อยบาท
แรงกดดันจากราคาหุ้นที่ร้อนแรง และวิ่งแซงหน้าปัจจัยพื้นฐาน ตกหนักมาอยู่ที่นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI ซึ่งต้องแบกหน้ารับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตัวหุ้น และความรู้สึกของนักลงทุนที่แห่เข้าไปเก็งกำไร และติดดอยโดยถ้วนหน้า
นอกจากนั้น หุ้น MGI ยังเป็นหุ้นที่ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ เฝ้าจับตา โดยล่าสุดถูกมาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 ต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ ระหว่างวันที่ 7-24 พฤษภาคมนี้
แต่ราคาที่ดิ่งลงแรงไม่ได้เกิดจากผลกระทบมาตรการกำกับการซื้อขาย แต่เกิดจากรายการ SELL ON FACT โดยตรง
ถ้า MGI ไม่ถูกกลุ่มนักลงทุนขาใหญ่ลากขึ้นไปไกลสุดกู่ จนเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานเปราะบาง ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ประกาศออกมาสวยคงกระตุ้นให้ราคาพุ่งวิ่งกันระเบิดเถิดเทิง แต่เพราะราคาหุ้นขึ้นไปดักรอข่าวดีล่วงหน้าแล้ว
ข่าวดีผลกำไรที่ประกาศออกมาจึงกลายเป็นข่าวร้าย จุดชนวนการเทขาย จนหุ้นทรุดหนักยิ่งกว่าถูกมาตรการกำกับการซื้อขายเสียอีก
ตัวเลขผู้ถือหุ้นรายย่อย MGI ข้อมูลจากการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2566 มีจำนวนเพียง 508 ราย แต่ล่าสุด จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยน่าจะเพิ่มเป็นหลายพันราย เพราะหลังหุ้นเข้าซื้อขายในตลาด MAI เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 นักลงทุนแห่เข้าเก็งกำไรหุ้น MGI อย่างคึกคัก
และส่วนใหญ่แบกหุ้นต้นทุนสูง ซึ่งคงทำใจทนถือต่อไป ภายใต้ความหวังว่าผลประกอบการ MGI จะเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
ไตรมาสแรก MGI ทำได้ดีแล้ว แต่ไตรมาสที่ 2 กำไรจะเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องหรือไม่ นักลงทุนคงต้องรอลุ้นกันต่อไป
