นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความ ระบุว่า เป็นห่วงกรณีหุ้นบริษัทหนึ่ง มูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ 1 ล้านล้านบาท มีราคาผันผวนมากกว่า 15% ภายในวันเดียว ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในหุ้นขนาดใหญ่อย่างตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน
พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับการปั่นหุ้นที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการกำหนดจำนวนขั้นต่ำของผู้ถือหุ้นรายย่อย ทำให้มีจำนวนหุ้นในตลาดเหลือน้อย เมื่อมีจำนวนน้อย ราคาหุ้นจึงสูงกว่าความเป็นจริง แต่บทลงโทษการปั่นหุ้นในไทยไม่ร้ายแรง ใช้เวลานานในการดำเนินคดี ทำให้บางบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำกว่าเกณฑ์มาก จนนักลงทุนบางกลุ่มสามารถปั่นหุ้น หรือต้อนหุ้นเข้ามุม ทำกำไรมหาศาลจากมูลค่าหุ้นที่พุ่งขึ้นเกินความเป็นจริงในระยะเวลาอันสั้นได้
นายเศรษฐา ระบุอีกว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเข้ามาส่งเสริมตลาดทุนไทย เพื่อปราบปรามพฤติกรรมการกระทำผิด เพิ่มความเข้มงวดกับบริษัทที่มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำกว่าเกณฑ์ สนับสนุนหุ้นที่มีธรรมาภิบาลอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การออกใบรับรองจากตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจว่าตลาดทุนของไทยจะมีความน่าเชื่อถือ และเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อรวมกับนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย เช่น นโยบายออกไปเจรจาการค้ากับต่างประเทศ นโยบายสร้างศูนย์กลางฟินเทค (Fintech)นโยบายเขตธุรกิจใหม่ มั่นใจว่าจะทำให้ประเทศไทยผงาดขึ้นมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาคได้อย่างภาคภูมิอีกครั้ง