แม้ตลาดหุ้นกำลังดำดิ่ง และมีแนวโน้มลงต่อจนอาจหลุดแนวรับ 1,300 จุด ย้อนยุคสู่ช่วงวิกฤตโควิด-19 เมื่อ 4 ปีก่อน แต่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังมองโลกสวย ประเมินว่า ดัชนีหุ้นปลายปีนิ้จะทะยานกลับขึ้นไปแตะระดับ 1,530-1,570 จุด
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กลายเป็นโบรกเกอร์ที่มองโลกสุดจะแสนสวย เพราะประเมินว่า ดัชนีหุ้นปลายปีจะพุ่งขึ้นแตะที่ระดับ 1,600 จุด และเป็นเป้าหมายหุ้นไกลที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ด้วยกัน
บล.กรุงศรีเคยตั้งเป้าหมายว่า ดัชนีปลายปีจะอยู่ที่ระดับ 1,680 จุด แต่ปรับลดลงเหลือ 1,600 จุด เหตุผลสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นซึ่งจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง ประกอบด้วยแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย 1 หรือ 2 ครั้งในปี 2567 GDP ปีนี้จะเติบโตประมาณ 2.7% การบริโภคฟื้นตัว การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ
การดึงเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติสร้างอุตสาหกรรม S-CURVE รวมทั้งแรงกระตุ้นจากฟุตบอลยูโร 2024
มุมมองของ บล.กรุงศรี และบริษัทโบรกเกอร์อีกหลายแห่งที่ประเมินว่า สิ้นปีนี้ดัชนีจะทะลุ 1,500 จุดขึ้นไป สวนทางกับสถานการณ์ตลาดหุ้นที่เป็นจริง และทุกคนกำลังเผชิญหน้าอยู่
สถานการณ์ที่เป็นจริงในวันนี้ ตลาดหุ้นตกต่ำสุดขีด ดัชนีปักหัวลงเหวลึก ข่าวร้ายกระหน่ำใส่ไม่ขาดสาย เศรษฐกิจทรุดหนัก การเมืองวุ่นวาย เสถียรภาพรัฐบาลคลอนแคลน นักลงทุนต่างชาติถล่มขายหุ้นไม่ยั้ง
นักลงทุนรายย่อยกำลังสิ้นใจ เพราะขาดทุนหุ้นกันย่อยยับ โดยไม่มีข่าวดีที่รอคอย
และรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่มีมาตรการใดเพื่อกระตุ้นตลาดหุ้นหรือปลุกความมั่นใจของนักลงทุน
ดัชนีหุ้นทรุดหนักทุกวัน ดิ่งลงเหมือนกำลังล่มสลาย
หุ้นตัวดัง หุ้นตัวเด่นๆ หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม เข้าแถวเรียงหน้ากระดานโบกมือลากลับบ้านเก่า ราคาทรุดลงระดับ 80-90% เมื่อเทียบกับจุดที่เคยขึ้นไปสูงสุด ไม่ว่าหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่างบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA รวมทั้งบริษัทลูกอย่างบริษัท เน็กซ์พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกันประมาณครึ่งแสนคน
หุ้นกลุ่มบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ซึ่งลงระเนระนาดยกคอก
และหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ซึ่งราคาหลุด 1 บาท ต่ำสุดนับจากเข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2563
นักลงทุนเสียหายวายวอดจากหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมนับร้อยบริษัท ที่ทรุดฮวบดุจใบไม้ร่วง
ถ้าบรรยากาศการลงทุนกลับมาคึกคัก ตลาดหุ้นกระเตื้องขึ้น ดัชนีฟื้น กระดานหุ้นเขียวสดใส หุ้นรายตัวมีโอกาสปรับตัวขึ้นมาใหม่ได้
แต่ไม่มีสัญญาณการฟื้นคืนชีพของตลาดหุ้น แม้ในช่วงครึ่งปีหลังก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นที่โบรกเกอร์หยิบยกขึ้นมานั้นเป็นเพียงสมมติฐาน เป็นเพียงความคาดหวัง หรือการมองโลกสวยในความฝัน
แต่ในโลกที่เป็นจริง ตลาดหุ้นกำลังย่ำแย่ อยู่ในช่วงขาลงเต็มตัว และอาจลงทะลุ 1,300 จุด ขณะที่นักลงทุนระส่ำระสาย ซึมเศร้า เพราะความมั่นคงถูกละลายสูญหายไปในตลาดหุ้น
ไม่น่าจะมีนักลงทุนรายย่อยคนใดรอดพ้นจากหายนะตลาดหุ้นรอบนี้
ปี 2566 ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นที่ย่ำแย่ที่สุดในโลก รองจากตลาดหุ้นจีน แต่ปี 2567 ตลาดหุ้นทั่วโลกสดใส สร้างจุดสูงสุดใหม่กันเป็นว่าเล่นหลายประเทศ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยทรุดลง และมีแนวโน้มที่จะครองตำแหน่งบ๊วยของโลก
เป้าหมายดัชนีหุ้น 1,600 จุด สิ้นปีนี้จะเกิดขึ้นได้มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้น เพราะไม่อาจคาดหวังอะไรได้
ไม่มีอะไรคาดหวังจากมาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่นของรัฐบาลนายเศรษฐา ซึ่งได้แต่เฝ้าดูความล่มสลายของตลาดหุ้นไทย เฝ้าดูนักลงทุนทยอยล้มตายเกลี่อนตลาดหุ้น
