xs
xsm
sm
md
lg

เครดิตบูโรเผยยอดหนี้เสียบ้าน Q1 แตะ 2 แสนล้าน Gen Y นำโด่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ(เครดิตบูโร) โพสต์ในเฟซบุ๊ก Surapol Opassatien ถึงรายงานสินเชื่อบ้านไตรมาสที่​ 1/2567 จากข้อมู​ลสถิติของเครดิตบูโร 'ในไตรมาสที่​ 1/2567 เครดิตบูโร​เห็นอะไรจากข้อมู​ลที่สมาชิก​สถาบันการเงิน​ส่งเข้ามาในระบบ​'

1.บรรยากาศ​ที่พบเจอกันในการยื่นขอสินเชื่อบ้านจะพบว่ามีเสียงอื้ออึงว่าถูกปฏิเสธสูงมาก​ เรียกได้ว่า​ 100 ใบสมัครผ่านการพิจารณา​เบื้องต้น​ 50 ใบ​ เหตุเพราะมีการตรวจประเมินรายได้เข้มข้น​ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขอกู้มีศักยภาพ​ คำว่าศักยภาพมันต้องมีรายได้แน่นอน​ มั่นคง​ เพียงพอ​ สม่ำเสมอ​ เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์​ว่าลูกหนี้จะต้องมีความสามารถ​ในการชำระหนี้ตามตารางการชำระหนี้ได้ตลอด​รอดฝั่ง​ ตรวจรายได้เสร็จไปตรวจเครดิตบูโร​ตต่อว่ามีหนี้มากแค่ไหน​ มีประวัติการค้างชำระหรือไม่​ เพื่อประเมินความตั้งใจในการชำระหนี้​ เพราะมันเป็นไปตามกฎว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา

2.ภาพต่อไปคือบัญชีที่เปิดใหม่ของสินเชื่อบ้านในแต่ละปีมีกี่มากน้อย​ และคนวัยไหนเป็นผู้ได้สินเชื่อ​ พบว่าส่วนใหญ่คือ​ Gen Y​ ครับ​ สัดส่วนสูงขึ้นทุกๆ ปี​ มี่สำคัญคือ​ วงเงินสินเชื่อบ้านระดับที่ไม่เกิน​ 3 ล้านบาท​น่าจะเป็นกลุ่มหลัก

3.เมื่อเราดูตารางการเปิดบัญชี​ใหม่ของสินเชื่อบ้านในแต่ละปีจะพบว่า​ปี​ 2018​ หรือ​ 2561 มีจำนวนเกินกว่า​ 4.3 แสนบัญชี​ ปีก่อนโควิดอยู่ที่ระดับ​ 3.7​ แสนบัญชี​ ปีที่แล้วอยู่ที่​ 3.3 แสนบัญชี​ ไตรมาสแรกของปีนี้​ได้เพียง 5.9 หมื่นบัญชี​ ดูแล้วมันมีแต่แผ่วลง​ ซึ่งฝั่งผู้ประกอบการต่างบ่นกันมากเรื่องขายได้ยาก​ กู้ไม่ผ่าน​ ขอเหลือมาก​ อยากให้ลดเงื่อนไข เช่น​ LTV​ หลังที่สองหลังที่สาม​ แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับที่ปลายสาย​ เป็นต้น

4.-5.ต่อมาคือสถานการณ์​ในภาพรวมของสินเชื่อบ้านครับ​ ส่วนที่พุ่งขึ้นคือหนี้บ้านที่เคยเป็น​ NPLs แล้วมีการนำมาปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา (หนี้ทำ​ TDR)​ ภาพมันบอกว่าปรับกันมาก​ เส้นสีแดงคือหนี้เสียครับ​ ไตรมาสนี้มีการยกตัวขึ้นมาอยู่ที่​ 2.0 แสนล้านบาทเติบโต​ 18%yoy​ สัดส่วนในหนี้เสียรวม (1.09 ล​้านล้านบาท) ประมาณ​ 20% ถือว่าไม่น้อยนะครับ​ เส้นสีเหลืองคือหนี้บ้านที่เริ่มค้างชำระแต่ยังไม่เลย​ 90 วัน​ เรียกหนี้ตรงนี้ว่าหนี้กำลังจะเสียหรือ​ SM มันมาหยุดที่​ 1.8 แสนล้านบาทเติบโต​ 15%yoy ดีขึ้นกว่า​ Q4/2566 ที่เติบโต​ 31%yoy​ ที่สำคัญคือ​ 1.2 แสนล้านบาทอยู่ในความดูแลขอแบงก์​รัฐครับ​ การปรับโครงสร้างหนี้จะมีความยืดหยุ่น​ ผ่อนปรน​ ไม่ขึงตึงเท่าทางฝั่งเอกชนครับ​ ท่านจะดูเป็นยอดเงิน จำนวนบัญชี หรือเป็น​ % ก็ตามสะดวกนะครับ

6.เป็นการขยายความเพิ่มครับ​ กราฟแท่งสีแดงคือหนี้ที่ค้างเกิน​ 90 วันหรือหนี้เสียของสินเชื่อบ้าน​ แท่งสีเหลืองคือหนี้กำลังจะเสียหรือ​ SM สินเชื่อบ้าน​ กราฟแทงด้านซ้ายคือจำนวนบัญชีแยกตามช่วงวัยของ​ Generation ในแต่ละไตรมาสครับ​ เช่น ไตรมาส​ 1 ปี​ 2567​ Gen Y ถือสัญญาสินเชื่อบ้านที่เป็น​ NPL เท่ากับ​ 83,281 สัญญา​ คิดเป็นเงิน​ 1.24 แสนล้านบาท​ ในกรณีของ​ SM​ บ้านที่อยู่ในมือคน​ Gen Y​ ช่วงเวลาเดียวกันนี้​มีจำนวน​ 76,276 สัญญา​ คิดเป็นเงิน​ 1.18 แสนล้านบาท​

คิดแบบเร็วๆ ครับ​ คน​ Gen Y​ เป็นหนี้เสียบ้านกว่า​ 50% ของหนี้เสียบ้านทั้งหมด​(1.24/2.0 แสนล้านบาท) และกว่า​ 50% อีกเหมือนกันที่คน​ Gen Y​ เป็นหนี้กำลังจะเสียส่วนใหญ่ (1.18/1.8 แสนล้านบาท) คนวัยกำลังทำงานจะไปต่ออย่างไรในบรรยากาศ​เศรษฐกิจ​โตต่ำ​ มีปัญหาให้แก้แทบทุกด้าน​ จะเป็นหลานอาม่าในวันนี้มันไม่ง่ายเหมือนในหนังที่มีคนรุ่นก่อนเก็บเงินไว้ให้นะครับ​ ชีวิตจริงกับในหนังมันแตกต่างกันพอสมควร

7.ผมขอเสนอภาพความรู้สึก​ การประเมิน​ และข่าวร้ายๆ เเกี่ยวกับคนที่เป็นลูกหนี้ว่าในสภาพที่รุมเร้าแบบนี้​ ทางออกของใครบางคนมันไม่พึงประสงค์​ แต่คนเรานะครับ​ เมื่อมันสุดของสุด​ การตัดสินใจแบบนี้เราอาจจะเห็นมากขึ้น​ ได้แต่ภาวนาว่าอย่าเป็นเช่นนั้นเลย อันนี้มาจากภาพข่าวของสื่อ

ภาพที่เหลือคือขอเชิญชวนทุกๆ ท่านไปฟังการบรรยาย​หนี้ครัวเรือนไทยและการแก้ไขปัญหาในมุมมองของคนที่รับผิดชอบโดยตรงคือวิทยากรจากแบงก์​ชาติ​ ในงาน​ Money expo ที่เมืองทองธานีในวันที่​ 18 พฤษภาคม​ 2567 นี้นะครับ​ ไปฟัง​ ไปถามครับ​ว่าเราจะทำอย่างไรถ้าเราคือคนที่มีปัญหาการค้างชำระหนี้บ้านในเวลานี้​

แต่งงานในเวลาที่เหมาะสม​ แต่งกับงานที่สร้างรายได้ให้ทันกับค่าใช้จ่าย​ กู้บ้านกู้รถเอาตามความเหมาะควรของตัวเรา​ อย่าไปเอามาตรฐานที่คนอื่นมาบอกว่าเราควรทำอย่างไร​ เพราะบางครั้งคนที่บอกให้เราทำอย่างไร​ เขาคนนั้นอาจจะยังไม่รอดจากความอยากของตัวเขาเองอยู่เลย กระเป๋าใครกระเป๋ามัน​ สำหรับตัวผมได้แต่บอกว่า​ ถ้าคิดจะมีลูกกันในปี พ.ศ. นี้​ คิดกันเยอะๆ​ คิดกันให้มาก​ คิดแล้วคิดอีก​ "การไม่มีลูก​ อาจเป็นลาภอันประเสริฐ"  ในช่วงเวลาที่ยังมี​ Long​ covid-19​ ด้านการเงินอย่างในเวลานี้นะครับ​ ลองไตร่ตรอง​ดูครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น