นักลงทุนถามไถ่กันมานาน ทำไมหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA จึงทรุดหนักอย่างต่อเนื่อง แต่ผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2567 ที่ประกาศเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ตอบทุกคำถามในความย่ำแย่ของหุ้นตัวนี้
EA แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ผ่านตลาดหลักทรัพย์ หลังปิดการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีกำไรสุทธิ 888.70 ล้านบาท ลดลง 1,431.06 ล้านบาท หรือลดลง 61.70% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,319.76 ล้านบาท
ผลกำไรที่ทรุดฮวบสาเหตุหลักๆ เกิดจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ หมดระยะเวลาการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล (adder) จำนวน 327 ล้านบาท
ผลกระทบจากการปรับลดค่า FT ของทางภาครัฐและลดลงจากปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน พื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 671 ล้านบาท และการลดลงจากผลการดำเนินงานของธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากส่งมอบรถน้อยลง จำนวน 313 ล้านบาท
ราคาหุ้น EA ปักหัวลงทันทีที่เปิดการซื้อขายวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม โดยเปิดที่ 28.75 บาท และไหลลงต่อเนื่องจนปิดที่ราคา 26 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือลดลง 11.86% มูลค่าซื้อขาย 1,786.76 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายปี
ใครจะคิดว่า EA จะมีวันนี้ วันที่ราคาหุ้นถอยหลังไปไกลสุดกู่ ลงมาต่ำจนเหลือเชื่อว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ EA กำลังเฟื่องฟู ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 105.50 บาท
EA เป็นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกขนาดใหญ่ ก่อนเบนเข็มสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสดใส
ก่อนหน้า EA มีข่าวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งผลิตรถไฟฟ้าเพื่อส่งมอบ ซึ่งน่าจะกระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นขานรับ
แต่ราคาหุ้นกลับทรุดลง จนนักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่ตั้งข้อสงสัยว่า EA มีข่าวอะไรที่นักลงทุนทั่วไปไม่รู้
ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ทรุดหนัก น่าจะมีนักลงทุนบางกลุ่มรู้ระแคะระคายมาก่อน และทยอยเทขายหุ้นทิ้งล่วงหน้า ขณะที่นักลงทุนทั่วไปทยอยเข้าไปรับ จนแบกหุ้นต้นทุนสูงจำนวนมาก
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่ถือหุ้น EA ในราคาต้นทุนสูง เมื่อเห็นราคาหุ้นปรับตัวลงมาต่ำจึงทยอยซื้อ โดยหวังเฉลี่ยต้นทุนเดิม และทยอยซื้อในหลายราคา ตั้งแต่ราคาแถว 70-80 บาท จนราคาแถว 40-50 บาท ก็ยังสู้อยู่ ซื้อกระทั่งราคาดิ่งลงมาแถว 30 บาทเศษ
ทุกราคาที่ซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนเดิม ทุกคนคิดว่า EA ลงมาลึกมากแล้ว และไม่น่าจะลงลึกอีกสักเท่าไหร่ จึงไม่กังวลในความเสี่ยง
แต่ทุกคนคิดผิดหมด เพราะ EA ลงมาทะลุโลก และถ้าย้อนหลังไป 2-3 ปีก่อน ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น EA ในราคา 26 บาทในชาตินี้อีกแล้ว
เป้าหมายของ EA ในการพลิกฟื้นผลประกอบการคือ การเร่งผลิตรถไฟฟ้าเพื่อการส่งมอบลูกค้า แต่จะฟื้นฟูราคาหุ้นที่กำลังดิ่งลงเหวลึกได้เพียงใด
ผู้ถือหุ้นรายย่อย EA มีจำนวน 29,433 ราย และเกือบทั้งหมดติดหุ้นต้นทุนสูง ซึ่งได้แต่ฝากความหวังไว้กับแนวโน้มผลประกอบการบริษัท เพราะถ้าในไตรมาสต่อๆ ไปผลกำไรไม่เลวร้ายเหมือนไตรมาสแรก ราคาหุ้นอาจโงหัวขึ้นมาได้
แต่แนวโน้มผลประกอบการเป็นเพียงความคาดหวังเท่านั้น คำถามเฉพาะหน้าของนักลงทุนที่ติดหุ้นอยู่คือ
EA ลงสุดก้นเหวหรือยัง ราคาหุ้นที่มองกันว่าถูกสุดๆ แล้ว ยังจะมีถูกกว่าอีกหรือไม่