เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ ส่งซิกผลงานไตรมาส 2 จะเติบโตแข็งแกร่งจากไตรมาสก่อนหน้า จากแนวโน้มการเช่าพื้นที่คลังสินค้าห้องเย็นที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ธุรกิจที่เข้าลงทุนจะมีส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น รวมถึงเตรียมรับรู้รายได้ช่วงครึ่งปีหลังจาก SCG Inter VN ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในเวียดนาม และโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals หลังบอร์ดอนุมัติการลงทุนแล้ว คาดสร้างรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท ขณะไตรมาสแรกทำรายได้รวม 6,288 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 164.1 ล้านบาท
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัปพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,199.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 129.3 ล้านบาท จากธุรกิจหลักที่บริษัทดำเนินกิจการและธุรกิจที่เข้าลงทุนมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีลูกค้าผู้ประกอบการเช่าพื้นที่เพื่อเก็บไก่สดเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 หลังจากที่มีการเบิกสินค้าออกจากคลังห้องเย็นในช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากราคาเนื้อไก่ปรับที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจขนส่งสินค้าที่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของปริมาณการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป หลังจากเข้าลงทุนในบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT (สวิฟท์) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรชั้นนำที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (GSA) ในภูมิภาคเอเชีย แล้วเสร็จช่วงปลายไตรมาส 1/2567
ส่วนการดำเนินงานของ Transimex ผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรรายใหญ่ในเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทที่ SJWD เข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าไตรมาสแรกของปีนี้จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวตามลำดับ ส่วนธุรกิจให้บริการจัดเก็บและบริหารยานยนต์คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในครึ่งปีหลังของปีนี้ จากการขยายบริการโลจิสติกส์สำหรับโรงงานของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่เตรียมเปิดดำเนินการโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยภายในปีนี้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เวียดนาม จำกัด หรือ SCG International Vietnam Co.,Ltd. (SCG Inter VN) จากบริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ใช้เงินลงทุนประมาณ 193 ล้านบาท คาดว่าบริษัทจะทำธุรกรรมแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2567 และเริ่มรับรู้รายได้จาก SCG Inter VN ตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป
โดย SCG Inter VN ดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์มากว่า 10 ปี มีเครือข่ายผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญการขนส่งทางรถ การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ครอบคลุมทั่วประเทศเวียดนามและการขนส่งข้ามแดน ได้แก่ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว และจีน อีกทั้งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แก่ Long Son Petrochemicals โครงการปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเวียดนามของ บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าในช่วงแรกบริษัทจะรับรู้รายได้จาก SCG Inter VN ปีละ 1,000 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน SJWD กล่าวว่า ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 6,288.0 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 6,378.4 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า มีรายได้ 3,170.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 2,955.4 ล้านบาท ส่วนธุรกิจให้บริการจัดเก็บและบริหารสินค้า เช่น คลังสินค้าทั่วไป บริการจัดเก็บและบริหารยานยนต์ มีรายได้ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายได้จะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2-3 ของปีนี้ จากความต้องการจัดเก็บสินค้าและใช้บริการจากผู้ผลิตยานยนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในไตรมาสนี้มีการบันทึกรายการพิเศษทางบัญชี ประกอบกับธุรกิจที่บริษัทเข้าลงทุนบางแห่งมีผลการดำเนินงานและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 164.1 ล้านบาท ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งหากไม่นับรวมผลจากรายการพิเศษดังกล่าว บริษัทจะยังคงมีผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจหลักในระดับที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า