xs
xsm
sm
md
lg

AWC ทุ่ม 11,950 ล้านบาท ลงทุนทรัพย์สิน 'ไนท์ บาร์ซา' ถ.ช้างคลาน สร้างอาณาจักร 'ลานนาทีค เดสทิเนชัน' ฟื้นอสังหาฯ-ท่องเที่ยวเชียงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



AWC อสังหาฯ กลุ่มเจ้าสัวเจริญ สร้างสตอรีใหญ่ให้กับวงการอสังหาฯ และท่องเที่ยวไทย ล่าสุด ผู้ถือหุ้นอนุมัติเข้าลงทุนทรัพย์สินบน ถ.ช้างคลาน ในโครงการ “เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา” โครงการ “กาแล ไนท์ บาร์ซา” และโครงการ “เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่” ด้วยงบลงทุนและพัฒนาของการลงทุนครั้งนี้รวมมูลค่า 11,950 ล้านบาท สนับสนุนเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก เพียบพร้อมไปด้วยโรงแรมแบรนด์ระดับลักชัวรี สวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของเชียงใหม่ และโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่องถึง 5 ปี เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรมล้านนา พร้อมทุ่มเงินทุนเพิ่ม 2 โครงการในไพรม์โลเกชันในกรุงเทพฯ โครงการโอพี การ์เด้น ย่านบางรัก คาดเปิดบริการไตรมาสที่ 4 ปี 2570 และโครงการโรงแรมในพื้นที่ถนนสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นย่านไลฟ์สไตล์สุดเทรนดี้ พัฒนาไปสู่โรงแรมบริการด้านเวลเนส คาดเปิดดำเนินการไตรมาสที่ 3 ในปี 2571

จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นโลเกชันพิเศษที่ทางกลุ่มเจ้าสัวเจริญ ได้เข้ามาลงทุนและเก็บที่ดินในพอร์ตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ดินตั้งแต่ถนนช้างคลาน จังหวัดเชียงใหม่ ไล่ไปจนถึงถนนศรีดอนชัย เลียบแม่น้ำปิง จำนวนนับ 11 แปลง ที่ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ได้สะสมที่ดินเข้ามาเติมในพอร์ตเป็นผืนต่อเนื่องกว่า 100 ไร่

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เดินหน้าพัฒนาโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชัน” (Lannatique) โครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโต (GROWTH-LED Strategy) ของ AWC โดยได้รับมติเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติเข้าลงทุนในทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านช้างคลานในโครงการ “เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา” โครงการ “กาแล ไนท์ บาร์ซา” และโครงการ “เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่” เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ระดับลักชัวรี และสร้างสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรมล้านนา ดนตรีการแสดง ร้านค้าร้านอาหารมากมาย รวมความสุขความสนุกสนานและความอร่อยหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นเสมือนแรงบันดาลใจและความสุขให้ทุกคน ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชัน” ด้วยงบลงทุนและพัฒนาของครั้งนี้รวมมูลค่า 11,950 ล้านบาท เพื่อร่วมสร้างคุณค่าและสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

โดย นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป กล่าวว่า AWC เชื่อมั่นในคุณค่าศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่นของไทย และศิลปะล้านนาที่พิเศษอันทรงคุณค่ามายาวนาน และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก ผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพของบริษัท ทั้งในปัจจุบันที่ประกอบไปด้วยโรงแรม 3 แห่ง และศูนย์การค้า 1 แห่ง

รวมถึงโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชัน’ ในอนาคตที่จะประกอบไปด้วยโรงแรมแห่งใหม่อีก 3 แห่ง รวมถึงสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ร้านค้าร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรมที่มีแนวคิดในการผสมผสานงานศิลปะทุกแขนงเข้าไปกับพื้นที่ เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจสำหรับอนาคต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 10 ราย ที่จะมาช่วยสร้างไฮไลต์ให้กับเดสติเนชันด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับการพิจารณาอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนในโครงการ “เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา” โครงการ “กาแล ไนท์ บาร์ซา” และโครงการ “เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่” ที่จะได้รับการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชัน’ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายปี 2567 นี้ และจะต่อด้วยการเปิดโครงการเฟสต่างๆ ต่อเนื่องในช่วง 5 ปี เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่งเสริมการสร้างงานและเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างความแข็งแกร่งให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

AWC ได้วางแผนการลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชัน” ภายใต้เอกลักษณ์อันโดดเด่นในด้านศิลปะ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม คนรักงานศิลปะ กลุ่มเพื่อน คู่รัก ครอบครัว ในทุกเจเนอเรชัน ที่ประกอบไปด้วยแนวคิดเกี่ยวกับ วัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ สร้างศูนย์กลางงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนคุณค่าและเสน่ห์ของงานศิลปวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของล้านนา งานช่างสิบหมู่ ต่อเนื่องไปถึงแรงบันดาลใจและงานศิลปะร่วมสมัย ศิลปะนานาชาติ ศิลปะดิจิทัล และการออกแบบเชิงนวัตกรรม เพื่อสร้างศูนย์กลางแห่งแรงบัลดาลใจและความสวยงามสำหรับทุกคนจากทั่วโลก ที่รักในงานศิลปะรวมถึงวงการนักลงทุนและนักสะสมงานศิลปะระดับโลก บูรณาการไลฟ์สไตล์ และความบันเทิงหลากหลาย สร้างจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์และความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ทั้งดนตรีการแสดง และความสนุกสนานมากมาย พร้อมด้วยสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกในภาคเหนือ ตลาดไลฟ์สไตล์ ฟูดเลานจ์ แหล่งรวมความสุข ความสนุก ความอร่อยมากมาย และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการที่จะร่วมสร้างคุณค่าเพื่ออนาคตที่ดีกว่าให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน


“AWC มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชัน’ เพื่อร่วมสร้างคุณค่าและการเติบโตร่วมกันให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ และทั่วทั้งภาคเหนือด้วยการรวมพลังผ่านการจัดงานเชิญกลุ่มศิลปิน ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและวัฒนธรรมล้านนาในแขนงต่างๆ มาร่วมรวมพลังในโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชัน’ ที่จะมีการจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ AWC ในการส่งเสริมและสนับสนุนแนวคิดในการผสมผสานงานศิลปะทุกแขนง ร้านค้าต่างๆ เพื่อรวมความสุข ความอร่อยเข้าไปในทุกพื้นที่ภายในโครงการ เพื่อส่งเสริมและรักษาไว้ซึ่งคุณค่าและเสน่ห์แห่งกาลเวลาจากอดีต ไปสู่การออกแบบที่ทันสมัยเป็นเสมือนแรงบันดาลใจสู่อนาคต เพื่อสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่นำเสนอเรื่องราวของศิลปะและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าสู่สายตานักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก”

นอกเหนือจากโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชัน” ในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว AWC ยังได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนเพิ่มในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพบนพื้นที่ระดับไพรม์โลเกชันในอีก 2 จุดหมายสำคัญของกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย การเข้าลงทุนในโครงการโอพี การ์เด้น ย่านบางรัก เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการแฟลกชิป โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเสริมจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวริมสายน้ำ คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณไตรมาสที่ 4 ปี 2570 และโครงการโรงแรมในพื้นที่ถนนสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นย่านไลฟ์สไตล์สุดเทรนดี้ของกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาโครงการโรงแรมด้านเวลเนส คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณไตรมาสที่ 3 ในปี 2571 พร้อมสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ที่ช่วยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AWC ในการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ "สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า"
กำลังโหลดความคิดเห็น