กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ลุยปั้นชุมชนร้านค้าออนไลน์ต้นแบบตามแผนปี 2567 จำนวน 21 ชุมชน ใน 19 จังหวัด ภายใต้โครงการ Digital Village BCG ชุมชนออนไลน์ นวัตกรรมรักษ์โลก ประเดิมที่แรกวิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงและแปรรูปชันโรง ตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ แหล่งภูมิปัญญา การเลี้ยงผึ้งชันโรงและผู้ผลิตสินค้าน้ำผึ้งชันโรงที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ทั้งนี้ กรมฯ ได้พากูรูด้านการตลาดออนไลน์ชื่อดังไปจับมือทำร้านค้าออนไลน์ถึงที่ ปีนี้เน้นหนักเรื่องธุรกิจกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมปรับตัวตามเทรนด์โลก เพิ่มศักยภาพการขายสินค้าผ่านออนไลน์ และวิธีดันยอดขายสินค้าท้องถิ่นให้ปัง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (22 เมษายน 2567) ได้ลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงและแปรรูปชันโรง ตำบลบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อพัฒนาชุมชนเข้าสู่ชุมชนออนไลน์ภายใต้โครงการ Digital Village by DBD ส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่น ดึงศักยภาพจากอัตลักษณ์และภูมิปัญญาที่มีเฉพาะท้องถิ่นมาผสานกับการทำการตลาดออนไลน์ให้สินค้าชุมชนสามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่เพิ่มขึ้น โดยกิจกรรมครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ในชุมชนครั้งแรกของปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน 2567 โดยทั้ง 2 วันจะเป็นกิจกรรม Workshop เชิงลึก เพื่อพัฒนาศักยภาพการวางแผนและการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนเพาะเลี้ยงและแปรรูปชันโรงเป็นผู้ผลิตสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น ประกอบกับมีภูมิปัญญาในการเลี้ยงผึ้งชันโรงที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น รวมถึงชุมชนมีความพร้อมในการพัฒนาเข้าสู่ร้านค้าออนไลน์และขณะนี้สินค้าเป็นที่ต้องการในตลาดสูงอย่างน้ำผึ้งชันโรง รวมถึงสินค้าแปรรูปต่างๆ จากน้ำผึ้ง อาทิ เค้กกล้วยหอมน้ำผึ้งชันโรง สบู่และแชมพูน้ำผึ้ง
อธิบดี กล่าวต่อว่า “สำหรับการพัฒนาชุมชนภายใต้โครงการ Digital Village by DBD ในปีนี้จะมุ่งเน้นให้ธุรกิจชุมชนสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลง ให้ความสำคัญกับแนวคิด ESG และ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และพลังงานสะอาด โดยในโครงการฯ จะอบรมให้กับชุมชนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์และวิทยากรที่มีชื่อเสียง อาทิ ครูทิป แห่ง Digital Tips Academy, แอ๊ม เพจการตลาดการเตลิด, อาจารย์เชียง กัดไม่ปล่อย และกูรูด้านการตลาดออนไลน์อีกหลายท่าน โดยสมาชิกในชุมชนจะได้เรียนรู้หัวข้อการบรรยายที่น่าสนใจ อาทิ เทคนิคปั้นช่องให้ปัง สร้างยอดขาย บน TikTok, ลุยตลาด FACEBOOK จาก Zero to Hero และพิชิตยอดขายด้วย LINE SHOPPING เป็นต้น หัวข้อดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการชุมชน วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กลุ่มแม่บ้าน สามารถพัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบและสามารถจำหน่ายสินค้าชุมชนบนช่องทางการตลาดยุคใหม่ได้แบบมืออาชีพ ขยายโอกาสทางการตลาดให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน
หลังจากนี้กรมฯ มีแผนจะลงพื้นที่ไปพัฒนาชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกทั่วประเทศทั้งสิ้น 21 ชุมชน ใน 19 จังหวัด อาทิ วิสาหกิจชุมชนน่านอะโกร จ.น่าน, วิสาหกิจชุมชนอินดิคราฟท์ จ.แพร่, วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงตำบลช่องสะแก จ.เพรชบุรี, วิสาหกิจชุมชนจันทราบุรี @ปากน้ำแหลมสิงห์ จ.จันทบุรี, วิสาหกิจชุมชนหอยนางรมท่าโสม และวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง จ.ตราด, วิสาหกิจชุมชนสายรุ้งนาวาทอง จ.สกลนคร, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดบ้านด่านเหนือ จ.กาฬสินธุ์, วิสาหกิจชุมชนสนธิวัฒน์ จ.สุราษฎร์ธานี, วิสาหกิจชุมชนอามีนตาลโตนด และวิสาหกิจชุมชนบาราโหมบาร์ซา จ.ปัตตานี, เป็นต้น ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2562-2566 สร้างชุมชนออนไลน์ต้นแบบ ไปแล้วทั้งสิ้น 76 ชุมชน จาก 51 จังหวัด ซึ่งภายหลังการพัฒนาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ละชุมชนสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์เป็นของตนเองได้ และมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่เพิ่มขึ้นผ่าน Social Media แพลตฟอร์มต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าของโครงการฯ ได้ที่ Facebook: Digital Village By DBD โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร 0 2547 5959 สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th” อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย