การปั่นหุ้นไม่เคยหมดหายจากตลาดหุ้นไทย ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง ผู้กระทำความผิด 12 ราย ร่วมกันสร้างราคาหุ้น บริษัทสแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน โดยเรียกให้ชำระเงินรวม 28,223,311 บาท
พฤติกรรมการปั่นหุ้น SCN เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม – 2 พฤศจิกายน 2561 โดยกลุ่มผู้กระทำผิด 12 ราย ประกอบด้วยนายชนน วังตาล ,นางสาวอัญชฎา ธีรพงศ์วิษณุพร ,นางสาวมณทิกา มงคลนาวิน ,นางพัชราวลัย ชัยปาณี ,นายพิเชษฐ์ เพิ่มทรัพย์หิรัญ ,นางสาวทิตานัน หรุ่นเริงใจ
นางสาวภรณี เมฆดำรงแสง ,นางสาวพรรณทิพา เนติพัฒน์ ,นายณรุจ วิวรรธนไกร ,นายธันว์ วุฒิธรรม ,นายณัฐปภัสร์ เกสร์ชัยมงคล และนายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้งด้านความสัมพันธ์ส่วนตัว ความสัมธ์ทางการเงิน และการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น โดยสนับสนุนซึ่งกันและกันในการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น SCN
มีการผลักดันราคาหุ้น SCN อย่างต่อเนื่อง แตกย่อยคำสั่ง จับคู่ซื้อขายกันเองภายในกลุ่ม มุ่งหมายให้ราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้น SCN ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยราคาต่อหุ้นเพิ่มสูงขึ้น 35.87% ขึ้นสูงสุด 5.00 บาท จาก 3.68 บาท และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 เท่า จากวันละ 5 แสนหุ้น เป็น 8.47 ล้านหุ้น ในช่วงก่อนเกิดเหตุ 30 วันทำการ
นอกจากสั่งชำระค่าปรับแล้ว ยังห้ามผู้กระทำผิดปั่นหุ้น SCN และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตั้งแต่ 14 เดือนถึง 20 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 28 เดือนถึง 40 เดือน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ นายชนน วังตาล 1 ใน 12 ผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AKS ซึ่งหุ้นตกอยู่ในสภาพตายซากมายาวนานหลายปี
SCN ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร มีนายธัญชาติ กิจพิพิธ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 69.52% ของทุนจดทะเบียน มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 5,770 ราย มีนายสิปปกร ขาวสะอาด อดีตเทรดเดอร์ชื่อดัง ที่ผันตัวมาเป็นนักลงทุนรายใหญ่ เป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 14 นอกจากนั้นยังมีนายชำนาญ วังตาล เป็นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ
ผลประกอบการ SCN มีกำไรต่อเนื่อง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ แม้อัตราเงินปันผลไม่สูงนักก็ตาม มีค่า พี/อี เรโช ประมาณ 7 เท่า ราคาหุ้นเคลื่อนไหวราบเรียบมาตลอด ย่ำฐานอยู่แถว 1 บาทเศษมาแรมปี
แก๊งปั่นหุ้น 12 รายที่เข้าไปปั่นหุ้น SCN ไม่ได้มีความเกรงใจนายธัญชาติ ผู้ถือหุ้นใหญ่แต่อย่างใด เพราะหากนายธัญชาติเทหุ้นขาย เมื่อราคาถูกลากขึ้นสูงกว่าปกติ แก๊งปั่นหุ้นคงเจ็บตัวตามๆกัน
สำหรับนายชนน วังวตาล คงต้องพ้นตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AKS โดยอัตโนมัติ ในฐานะผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น SCN
AKS เป็นหุ้นที่ผ่านการซักฟอกมาหลายรอบ จากเดิมคือบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด หรือหุ้น KMC โดยเป็นหุ้นปั่นฉาวโฉ่ในอดีต ก่อนที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ
แต่เมื่อ พล.ต.อ.สมยศขายหุ้นทิ้ง มีผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่เข้ามา เปลี่ยนชื่อเป็น AKS
แม้จะผ่านการซักย้อมมาหลายครั้ง แต่หุ้น AKS ก็ยังไม่ฟื้น และอยู่ในสภาพซบเซา ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่แถว 1-2 สตางค์มายาวนาน ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่บางตา วันละไม่กี่หมื่นบาท และผลประกอบการไม่ดีนัก เพราะยังประสบปัญหาขาดทุน
ผู้ถือหุ้นรายย่อย AKS มีจำนวนทั้งสิ้น 28,392 ราย ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเข้ามาเก็งกำไร และติดหุ้นในช่วงที่เปลี่ยนชื่อมาจาก KMC มาเป็น AQ ซึ่งแม้เปลี่ยนชื่อมาเป็น AKS ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 2 หมื่นชีวิต ก็ยังมองไม่เห็นอนาคต ไม่เห็นโอกาสที่จะหลุดพ้นจากหุ้นที่มีประวัติโชกโชนตัวนี้
การปั่นหุ้น SCN เหตุเกิดมาแล้ว 6 ปี แต่กลุ่มคนที่ร่วมกันปั่น 12 คน เพิ่งถูกเปิดโปงและลงโทษ เวลาการดำเนินคดีกับแก๊งปั่นหุ้นยังอืดอาดล่าช้าอยู่เช่นเดิม
ก.ล.ต.ต้องยกเครื่องใหญ่ ขั้นตอนการดำเนินคดีแก๊งปั่นหุ้นอีกสักที ใครก่อกรรมทำเข็ญกับผู้ลงทุนในตลาดหุ้นไว้ ต้องได้รับผลแห่งกรรม ถูกลงโทษเห็นทันตา