xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ส.เต้”ยื่นผู้ตรวจการฯ ชงศาล รธน.วินิจฉัยประกาศ BOI ให้ต่างชาติซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดินไทยผิดหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (11 พ.ย.) เวลา 11.00 น. พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร แบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อม น.ส.ภคอร จันทรคณา รักษาการหัวหน้าพรรค , นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค , น.ส.อริณรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค, น.ส.ณัฐปภัสร์ วรธันธ์ผาสุข รองโฆษกพรรค , น.ส.อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส. เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2565 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 1 หรือไม่

ด้วยข้าพเจ้านายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ขอยื่นคำร้องต่อท่านฯในฐานะผู้ตรวจการแผ่นดินตามเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ตามที่ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2565 วันที่ 8 สิงหาคม 2565 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะ ประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแก่นิติบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้นิติบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วไม่น้อยกว่า
50 ล้านบาท ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย โดยกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาต ดังนี้

1.1 ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมให้ถือกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 5 ไร่
1.2 ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัยของผู้บริหารหรือผู้ชำนาญการให้ถือกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 10 ไร่
1.3 ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัยของคนงานให้ถือกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 20 ไร่
1.4 ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยจะอยู่ในบริเวณเดียวกันกับที่ดินอันเป็นที่ตั้งสถานประกอบการหรือไม่ก็ได้

ทั้งนี้ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นพิเศษสำนักงานจะพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสมเป็นกรณีไป

ข้อ 2 จะต้องจำหน่ายหรือโอนที่ดินภายใน 1 ปี เมื่อหมดสภาพการเป็นผู้ได้รับการส่งเสริม

ข้อ 3 มอบอำนาจให้สำนักงานออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมตามความเหมาะสม เช่นประเภทกิจการ ระยะห่างจากสถานประกอบการ เป็นต้น
ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่รักและห่วงแหนพื้นแผ่นดิน ประเทศไทยเป็นเอกราช มาช้านาน และบรรพชน ต่างเสียสละเลือดเนื้อปกป้องรักษาพื้นแผ่นดินนี้ด้วยชีวิต มาจนถึงปัจจุบันนั้น ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 1 ที่ระบุว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียว จะแบ่งแยกมิได้ การที่ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2560 วันที่ 8 สิงหาคม 2565 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะ ประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย ให้นิติบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย รวมไม่เกิน 35 ไร่ นั้น เป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 1 หรือไม่

การกระทำดังกล่าวตามข้อ 1 อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพี่น้องประชาชน พื้นแผ่นดินไทย อันหลีกเลี่ยงมิได้ จากการ ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2560 วันที่ 8 สิงหาคม 2560 ดังกล่าว อาจขัดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 1 ข้าพเจ้าจึงมาร้องต่อท่าน เพื่อให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าการกระทำเมื่อ ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 6/2565 วันที่ 8 สิงหาคม 2565 เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุลคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยให้นิติบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย ไม่เกิน ๓๕ ไร่ ดังกล่าวนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 1 หรือไม่ โปรดพิจารณาและดำเนินการ อย่างเร่งด่วน เพื่อระงับยับยั้งความเสียที่อาจเกิดขึ้น