บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA มีปมปัญหาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งให้ชี้แจงไม่หยุดหย่อน ล่าสุดถูกสั่งชี้แจงการชำระหนี้หุ้นกู้และหนี้อื่นๆ จำนวนรวม 2,352 ล้านบาท ซึ่งจะครบ 1 กำหนดชำระภายใน 1 ปี โดยขีดเส้นแจ้งข้อมูลภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้
NUSA เหลือเงินสดในบัญชีเพียง 39 ล้านบาท แต่มีหนี้หุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนภายใน 1 ปี จำนวน 1,185 ล้านบาท และมีหนี้อื่นที่จะครบกำหนดชำระคืนใน 1 ปีอีกจำนวน 1,167 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอทราบความคืบหน้า แผนงาน และการดำเนินการบริหารจัดการสภาพคล่อง เพื่อชำระหนี้และดอกเบี้ยรวมถึงการดำเนินธุรกิจตามปกติ
ตลาดหลักทรัพย์ยังขอให้นักลงทุน ติดตามคำชี้แจงของ NUSA และนักลงทุนที่มีหุ้น NUSA อยู่ในมือ ควรอย่างยิ่งที่ต้องติดตามข้อมูลแผนการชำระหนี้ เพราะจะมีผลต่อราคาหุ้น NUSA โดยตรง
แผนการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน การชำระคืนหนื้หุ้นกู้และหนี้อื่นๆ ถูกกำหนดไว้แล้ว ภายใต้คณะกรรมการบริหารชุดเก่า ซึ่งมีนายวิษณุ เทพเจริญ เป็นประธานกรรมการ โดยจะจำหน่ายทรัพย์สิน 6 รายการ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท
หนึ่งในทรัพย์สินที่จะจำหน่ายคือ หุ้นบริษัท วินด์ อ็นเนอร์นยี่ โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 7.12% ของทุนจดทะเบียน มูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านบาท
แต่กลุ่มนายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ NUSA ออกโรงคัดค้านแผนการขายทรัพย์สินทันที และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.มหาชน และขอมติผู้ถือหุ้น เปลี่ยนมติการขายทรัพย์สิน ตั้งกรรมการ NUSA ใหม่ รวมทั้งปลดนายวิษณุพ้นจากตำแหน่ง
แผนการแก้ปัญหาสภาพคล่อง และการสำรองเงิน เพื่อเตรียมชำระหนี้สิ้นจำนวน 2,352 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดใน 1 ปี จึงต้องเริ่มต้นกันใหม่ ท่ามกลางความกังวลว่า
NUSA อาจผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ และหนี้สินอื่น เช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนอีกหลายแห่งที่มีปัญหาฐานะทางการเงิน ไม่มีเงินชะระหนี้ จนหุ้นตกอยู่ในสภาพตายซาก เพราะนักลงทุนพากันขายทิ้ง
เพียงแต่หุ้น NUSA กลับแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ แม้จะมีปัจจัยลบกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารงานภายในที่ถูกจับตาในความโปร่งใส ปัญหาผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง และมีหนี้ระยะสั้นจำนวนกว่า 2 พันล้านบาท ที่จ่อคอหอย ต้องชำระคืนภายใน 1 ปี ขณะที่บริษัทมีเงินสดเหลืออยู่เพียง 39 ล้านบาท
การขายทรัพย์สิน เพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง แนวทางดีที่สุดและรวดเร็วที่สุดคือ ขายหุ้นบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด เพราะเป็นทรัพย์สินที่ซื้อง่ายขายคล่อง และน่าจะมีผู้สนใจอยู่
แต่หุ้นวินด์ฯ ที่ NUSA ถืออยู่คือกล่องดวงใจของนายประเดช ซึ่งต้องใช้สัดส่วนหุ้นวินด์ฯ 7.12% ใช้โหวตเสียงการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อคุมอำนาจบริหารวินด์อย่างเบ็ดเสร็จมาหลายปีแล้ว
และวินด์ฯ เป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่ผลิตเงินให้กลุ่มนายประเดชเสพ สุขปีละนับพันๆ ล้านบาท
การขายหุ้นวินด์ เพื่อเสริมสภาพคล่อง และช่วยให้ NUSA มีเงินชำระหนี้ ไม่เกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้ จึงไม่ใช่ทางเลือกของคณะกรรมการ NUSA ชุดนายประเดช
แต่ NUSA จะหาทางออกอย่างไรกับการหาเงินมาชำระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนด นักลงทุนต้องรอฟังคำชี้แจงจากฝ่ายบริหารบริษัทภายใน 15 มีนาคมนี้ ตามเส้นตายที่ตลาดหลักทรัพย์ขีดไว้
ผู้ถือหุ้นรายย่อย NUSA จำนวน 8,755 ราย คงติดตามการแก้ปัญหานี้ระยะสั้นของ NUSA ด้วยความระทึก เพราะหากผิดนัดชำระหนี้ หุ้น NUSA คงถูกถล่มขายอีกระลอก
และรอบก่อน หุ้น NUSA เคยถูกถล่ม จนร่วงลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบหลายปีที่ 28 สตางค์มาแล้ว แต่ถูกลากขึ้นมาใหม่ ล่าสุดวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาปิดที่ 44 สตางค์ แม้จะมีข่าวร้ายรุมเร้ารอบด้านก็ตาม
15 มีนาคมนี้ ต้องรอดูว่า ฝ่ายบริหาร NUSA จะมีแผนหาเงินมาจากไหน เพื่อชำระหนี้ระยะสั้นกว่า 2 พันล้านบาท
ถ้ามีแผนที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า NUSA จะไม่มีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ก็ดีไป แต่ถ้าแผนที่มี ไม่สามารถทำให้นักลงทุนหมดความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ได้
หุ้น NUSA อาจเจอมรสุม ผู้ถือหุ้นรายย่อย NUSA อาจต้องร้องระงมอีกครั้ง