xs
xsm
sm
md
lg

กองเชียร์หุ้น MGI / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไม่รู้ว่านายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาด MAI มีความภาคภูมิใจการรับหุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เข้ามาจดทะเบียน

หรือกำลังทุกข์ใจหนักกับพฤติกรรมการเย้ยหยันมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นร้อนของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งไม่อาจสยบหุ้น MGI ให้ราบคาบได้

ตลาดหลักทรัพย์ต้องออกแรงหมัด สั่งขึ้นเครื่องหมาย P พักการซื้อขายหุ้น 1 วันถึง 3 ครั้ง หุ้น MGI จึงยอมสยบ หยุดความร้อนแรงลง โดยราคาหุ้นถูกปล่อยให้ตกรูดติดฟลอร์ 30% เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 19.50 บาท

แต่วันต่อมา 1 มีนาคม MGI คืนชีพใหม่ กลับมาแผลงฤทธิ์อีก โดยเปิดการซื้อขายช่วงแรกราคาถูกทุบรูดติดฟลอร์ แต่หลังจากนั้นมีแรงซื้อดันราคาขึ้นต่อเนื่อง จนปิดการซื้อขายราคาพลิกมาเป็นบวกปิดที่ 48.50 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท

มาตรการกำกับการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ ถูกตอกย้ำอีกครั้งว่าไร้น้ำยา ไม่อาจสยบหุ้น MGI ได้อย่างถาวร และไม่รู้ว่าหุ้นนางงามตัวนี้จะถูกลากไปทะลุฟ้าขนาดไหน สุดท้ายจะมีนักลงทุนรายย่อยบาดเจ็บล้มตายจำนวนเท่าไหร่

ฝ่ายบริหารตลาดหลักทรัพย์อาจได้แต่มองตาปริบๆ นั่งดูพฤติกรรมความผิดปกติหุ้น MGI ต่อไป เพราะหมดปัญหาแก้ไข ปล่อยให้ประชาชนผู้ลงทุนที่พลัดหลังเข้าไปเก็งกำไรต้องตกอยู่ในความเสี่ยง

MGI กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ เพราะตั้งแต่หุ้นเข้ามาซื้อขายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 มีการส่งเสียงเชียร์กันอย่างโจ๋งครึ่มมาตลอด เชียร์กันเป็นรายวัน และหมิ่นเหม่ต่อการชี้นำราคาหุ้น ทั้งจากผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท

เสี่ยหุ้นหลายคนที่ร่ำรวยระดับพันล้านบาทหมื่นล้านบาท เบื้องหลังความมั่งคั่งที่กอบโกยจากตลาดหุ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากกลยุทธ์การเชียร์ โดยเมื่อซื้อหุ้นตัวใดแล้วจะปล่อยข่าวกระตุ้นราคาหุ้น และเชียร์ให้นักลงทุนซื้อตาม

เมื่อนักลงทุนรายย่อยหลงกลแห่เข้าไปเก็งกำไร เสี่ยหุ้นจะเทขายหุ้นทิ้ง โกยกำไรใส่กระเป๋า ปล่อยให้นักลงทุนรายย่อยฆ่าฟันกินเลือดกันเอง

เบื้องหลังความร่ำร่วยของเสี่ยหุ้นหลายคน เกิดขึ้นจากการก่ออาชญากรรม ความมั่งคั่งระดับพันล้านระดับหมื่นล้านที่นำมาคุยโม้กันนั้นเกิดขึ้นบนหายนะของนักลงทุนรายย่อย

ยุทธวิธีเชียร์หุ้นของบรรดาขาใหญ่ เพื่อล่อแมลงเม่าให้บินเข้ากองไฟทำกันอย่างลับๆ เงียบๆ ไม่ประเจิดประเจ้อ ไม่เย้ยฟ้าท้าทายตลาดหลักทรัพย์มากนัก

แต่หุ้น MGI กลับมีกองเชียร์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งส่งเสียงเชียร์กันอย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่เกรงกลัวความผิดการชี้นำราคาหุ้นแต่อย่างใด

และไม่คำนึงถึงพฤติกรรมเชียร์ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

ผู้ถือหุ้นใหญ่หรือผู้บริหารบริษัทถือว่ามีส่วนได้เสียกับการขึ้นลงของราคาหุ้น ตามมารยาทหรือโดยจิตสำนึกแล้วไม่ควรออกมาแหกปากตะโกนบอกชาวบ้านว่า ซื้อหุ้นเพิ่มเข้ามาเท่าไหร่ ไม่ควรเปิดเผยราคาหุ้นที่ซื้อ และไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องโพนทะนาว่าจะไม่ขายหุ้น

แต่นายกฤติเดช ประชานุกูล ผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI อันดับที่ 11 ถือครองหุ้นจำนวน 1.5 ล้านหุ้น กลับโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล

โอ้อวดว่าซื้อหุ้น MGI ในราคาสูงระดับหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ซื้อจริงหรือไม่ และซื้อเพียงไม่กี่ร้อยหุ้นหรือไม่ แต่ออกมาคุยโวสร้างภาพใหญ่โต โดยระบุว่า อยากมีชีวิตที่มีความสุขในอนาคต ทำงานได้เงินมาก็ฝากหุ้น MGI

นอกจากนั้น ยังมีข้อความว่อนในสื่อโซเชียล มีชื่อนายกฤติเดช พร้อมข้อความ “ใครพลาดขายต่ำกว่า 60 บาท พวกผมรอกวาดเรียบนะ” แต่ไม่อาจยืนยันว่าเป็นข้อความที่นายกฤติเดช โพสต์จริงหรือไม่ แต่เป็นข้อความเชียร์หุ้น MGI อย่างโจ๋งครึ่ม

หุ้น MGI แทบไม่มีเสียงเชียร์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์สำนักไหน มีแต่เสียงเตือนให้นักลงทุนระมัดระวัง

เสียงเชียร์ที่ดังลั่นตลาดหุ้นเป็นรายวันเกิดจากกลุ่มคนที่มีส่วนได้เสียแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI

ตลาดหลักทรัพย์จะปล่อยให้ MGI จะปล่อยให้ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนออกมาเชียร์หุ้นตัวเองสนั่นหวั่นไหว โดยไม่ “ยี่หระ”ต่อกฎกติกาและมารยาทใดๆหรือ

ปรากฏการณ์เชียร์หุ้น หว่านล้อมชักจูงให้ประชาชนผู้ลงทุนตามแห่เข้าไปเก็งกำไรหุ้น MGI เป็นปัญหาใหญ่ที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องเร่งรีบหามาตรควบคุม แก้ไขและจัดการ

เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ MGI จะเป็นเยี่ยงอย่างผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียน หรือผู้มีส่วนได้เสียกับราคาหุ้นแห่ออกมาเชียร์หุ้นโจ๋งครึ่มเช่นเดียวกับ MGI

การปลุกเร้า โฆษณาชวนเชื่อ เชียร์เพื่อชักจูงให้เข้าไปเล่นหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ถ้าไม่ฆ่าตัดตอนเสียตั้งแต่หุ้น MGI และปล่อยให้การเชียร์หุ้นขยายวงต่อไป

จุดจบคือหายนะของนักลงทุนครั้งใหญ่ และรุนแรงยิ่งกว่าการแต่งบัญชีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เสียอีก

ขบวนการเชียร์หุ้น ชักจูงให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นกำลังจะแปรสภาพตลาดหุ้นให้กลายเป็นศูนย์รวมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกต้มประชาชนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย








กำลังโหลดความคิดเห็น