xs
xsm
sm
md
lg

หุ้น MGI วิ่งต่อปิดบวกที่ 16.90 บาท เมิน ตลท.ออกโรงเตือนนักลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้น "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ยังคงวิ่งต่อปิดที่ 16.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 9.03% มูลค่าซื้อขาย 1,914.28 ล้านบาท แม้ ตลท. ออกโรงเตือนนักลงทุนระวังซื้อขาย หลังจากราคาหุ้นวิ่งชนซิลลิ่งมา 2 วันติด ขณะโบรกเกอร์มองผลงานปีหน้า MGI สดใส ให้ราคาเป้าหมายตามมูลค่าพื้นฐานที่ 9.80 บาท

วานนี้ราคาหุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MGI) ยังคงฝ่ากระแสข่าว ปิดที่ 16.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 9.03% มูลค่าซื้อขาย 1,914.28 ล้านบาท หลังจากราคาหุ้นวิ่งชนซิลลิ่งมา 2 วันติด

แม้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ระบุว่าขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MGI) เนื่องจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องด้วยมูลค่าการซื้อขายที่สูงตลอด 5 วันทำการที่เริ่มเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai รวม +255.56% จากราคา IPO ที่ 4.95 บาท และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยที่ 995.36 ล้านบาท โดยเฉพาะวันที่ 18-19 ธันวาคม 2566 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ราคาเพดานของวัน (Ceiling) จนไม่เหลือปริมาณหุ้นเสนอขาย (Offer) ทั้ง 2 วันทำการ

ขณะในภาคเช้าของการซื้อขายวันนี้ (20 ธันวาคม 2566) ราคามีความผันผวนปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคาเพดาน (Ceiling) ที่ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 29.68% ก่อนจะลดลงอย่างรวดเร็วไปต่ำสุดที่ 13.60 บาท หรือลดลง 12.26% ซึ่งโดยมาปิดภาคเช้าวันนี้ที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 13.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขายอันดับ 2 ทั้งในกระดาน SET และ mai ที่ 1,318 ล้านบาท มี P/E และ P/BV 41.81 เท่า และ 7.97 เท่า ตามลำดับ

ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังและพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับสภาพการซื้อขายของ MGI ก่อนการตัดสินใจลงทุน

ทั้งนี้ หุ้น MGI เข้าซื้อขายในตลาด mai เป็นวันแรกเมื่อ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เปิดเทรดวันแรกที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ 26.26% จากราคา IPO 4.95 บาท ระหว่างวันราคาหุ้น ปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 8.50 บาท ต่ำสุดที่ 6.20 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.55 บาท หรือ 71.72% มูลค่าซื้อขาย 1.329.38 ล้านบาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ทำบทวิเคราะห์ออกมาให้ราคาเหมาะสมหุ้น MGI ที่ 9.80 บาท เพราะนับจาก MGI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปกว่า 300% ทำให้นางงามมหาชนทั้ง อิงฟ้า วราหะ และชาล็อต ออสติน ที่ผู้บริหารของ MGIอย่าง "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ส่งขึ้นไปนั่งแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ถือหุ้นคนละ 2 ล้านหุ้น มีมูลค่าเพิ่มเป็นรายละกว่า 40 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.หยวนต้าประเมินว่า แนวโน้มกำไรของ MGI ในปี 2566 เติบโตโดดเด่น 100% เป็น 96 ล้านบาท เนื่องจากการปรับกลยุทธ์ขยายฐานรายได้ต่อยอดจากธุรกิจนางงาม โดยเพิ่มรายได้จากธุรกิจสื่อ ธุรกิจบันเทิง และรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน สอดคล้องกับกระแสการประกวดมิสแกรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จากเดิมที่เน้นธุรกิจพาณิชย์และนางงาม และประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นตามรายได้ที่เติบโต และธุรกิจพาณิชย์กับกลยุทธ์ดึงสินค้าที่ขายผ่านตัวแทนมาบริหารเอง ลดต้นทุนการตลาด และลดการขายผ่านทีวีมาช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น คาด EBITDA Margin ปรับเพิ่มจาก 19.7% ในปี 2565 เป็น 22.7%

ดังนั้น มองว่าธุรกิจของ MGI มีความน่าสนใจ ด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง หากอิงสมมติฐานกำไรปี 2567 ที่ 108 ล้านบาท จำนวนหุ้นหลัง IPO ที่ 210 ล้านหุ้น EPS ปี 2567 จะอยู่ที่ 0.52 บาท/หุ้น ประเมิน PER เหมาะสมที่ 18 เท่า โดยการใช้ค่ากลาง (Median) ของหุ้นกลุ่มบันเทิงและค้าปลีกที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกันจะได้มูลค่าพื้นฐานที่ 9.80 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น