มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ปิดเทรดวันแรก 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.55 บาท หรือ 71.72% จากราคา IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 4.95 บาท เตรียมนำเงินไปใช้ปรับปรุงตกแต่งอาคาร การลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง ด้าน "เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล" ปิดเทรด 4.98 บาท ลดลง 0.27 บาท หรือ 5.14%
หุ้น MGI หรือมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเทรดวันแรกที่ 6.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ 26.26% จากราคา IPO 4.95 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 8.50 บาท ต่ำสุดที่ 6.20 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.55 บาท หรือ 71.72% มูลค่าซื้อขาย 1.329.38 ล้านบาท
สำหรับ MGI เสนอขายหุ้น IPO 60 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็น Trailing P/E 11.76x เทียบกับ Peers APCO 37.25x KISS 35.9x KAMART 24.42x JKN 8.38x ซึ่งการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.57% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน MGI จะไปใช้สำหรับลงทุนปรับปรุงตกแต่งอาคาร การลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า และผลิตรายการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ในทุกช่องทาง รวมทั้งการลงทุนพัฒนาขีดความสามารถของระบบสารสนเทศ (Information Technology) ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายณวัฒน์ อิสรไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ MGI เผยว่าถือว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ครั้งเดียวในชีวิตสำหรับ MGI เป็นสิ่งที่ MGI รอคอยมานาน 3 ปีหลังทำงานอย่างหนักถือว่าวันนี้เป็นวันที่โล่งใจ เพราะ GI มีผลประกอบการมีกำไรที่ดี ทำให้การขายหุ้น IPO หมดเกลี้ยงเพราะมีแค่ 60 ล้านหุ้น ส่วนราคาจองซื้อ IPO เพียง 4.59 บาท เป็นราคาที่ทุกคนจับต้องได้ ส่งผลขายหุ้นได้หมดทั้ง 100% และขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจ
"แม้ภาวะเศรษฐกิจไทยไม่ค่อยดี แต่เราผ่านไปได้ดีและเป็นบริษัทแรกที่เราเอาตัวรอดได้ และขณะนี้ดีลธุรกิจคาดจะมีความชัดเจนปี 67 ด้วยความที่เราเข้าหมวดคอมเมิร์์ซ ฉะนั้นการทำธุรกิจของเราเป็นสิ่งสำคัญ การประกวดนางงามเป็นเรื่องตลาดรองของเรา อีเวนต์เป็นตลาดหลักที่เราจะโฟกัสไปทั้งในและต่างประเทศ เราจัดอีเวนต์ค่อนข้างเยอะ ที-ป็อปบอกเลยว่าเราไม่ได้คิดกันเล่นๆ เรากำลังจะไปไกลมาก เราตั้งใจมากกับคำว่าที-ป็อปในปีนี้ รอดูอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เราพยายามทำให้สูงที่สุด ส่วนปี 67 จะมีภาพยนตร์ร่วมกับ GDH เป็นงานละคร"
โดยเป้าหมายที่จะมุ่งไปคือฝรั่งเศส เพราะต้องการทำให้ MGI เป็นอินเตอร์ จึงอยากฝากถึงผู้ถือหุ้นขอให้มั่นใจในบริษัท ซึ่ง MGI จะปันผลทุกปีอย่างน้อยจากกำไรสุทธิ 40% เพื๋อคืนกลับให้ผู้ถือหุ้นแน่นอน เพราะกำไร 9 เดือนแรกปีนี้ทำกำไรได้แล้ว 80 ล้านแล้ว จากเป้าหมาย 100 กว่าล้านบาท
เอเชีย เน็ตเวิร์คฯ ต่ำจอง 27 สต.
หุ้น ANI หรือบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายวันแรกเปิดเทรดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 4.76% จากราคา IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 5.25 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 5.80 บาท ต่ำสุดที่ 4.94 บาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 4.98 บาท ลดลง 0.27 บาท หรือ 5.14% มูลค่าซื้อขาย 641.01 ล้านบาท
โดย ANI เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 554.7 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท มูลค่ารวมที่เสนอขาย 2,912 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น Trailing P/E 11.19x เทียบกับกลุ่ม 52.97x, III 10.87x, WICE 10.98x, LEO 10.10x บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินจากการเข้าซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ซื้อมาในช่วงปลายปี 2565 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับ ANI ประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo General Sales Agent (GSA) ให้แก่สายการบินกว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ครอบคลุมเส้นทางการบินซึ่งมีปลายทางกว่า 400 แห่งทั่วโลก ซึ่งภายหลังจากการขายหุ้น IPO จะมี บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) ถือหุ้นใหญ่ 36.1% และ Mr.Thomas Tay Nguen Cheong 33.2%
ขณะที่รายได้นั้น ANI มีส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจ GSA 23% บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการต่อเนื่องในการให้บริการแก่ผู้ให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยานของท่าอากาศยานชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์ และมีรายได้หลักเกือบทั้งหมดมาจากธุรกิจบริหารจัดการและขายระวางสินค้าของสายการบิน ปี 65 มีรายได้รวม 7,718 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 816 ล้านบาท
