บริษัทอสังหาฯ รายเล็กเร่งรักษาส่วนแบ่งตลาด "พีซแอนด์ลีฟวิ่งฯ" เดินหน้ารุกตลาดอสังหาฯ ปี 67 ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 68 เต็มกำลัง ลุยเปิด 5 โครงการใหม่ บน 5 ทำเลศักยภาพ มูลค่ารวมกว่า 2,600 ล้านบาท พร้อมเร่งระบายสต๊อกพร้อมขายกว่า 5,300 ล้านบาท ดึงเงินสดรับมือภาวะเศรษฐกิจ วางงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ในการซื้อที่ดินหลากหลายทำเลเพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ยังมุ่งเน้นในพอร์ตโครงการแนวราบ เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
นายสุทธิชัย พูนลาภทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า บริษัทยังมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่แน่นอน สะท้อนให้เห็นถึงแผนธุรกิจระยะยาวของบริษัทที่มีความชัดเจน และมีการลงทุนอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน
ขณะที่สถานการณ์ธุรกิจในปีรอบปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,053 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท ลดลง 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยสาเหตุหลักเกิดปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และจำนวนบ้านคงเหลือขายที่ลดลงจากการที่บริษัทสามารถปิดโครงการได้ถึง 3 โครงการ โดยการเปิดโครงการใหม่นั้นเริ่มเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้บริษัทเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2566 ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น อย่างไรก็ดี มองว่าในปี 2567 สถานการณ์เศรษฐกิจจะมีทิศทางปรับตัวที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการที่เป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง หลังจากในปีที่ผ่านมา สามารถปิดการขายโครงการโอนกรรมสิทธิ์ 100% ได้ถึง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ THE GLAMOR เอกมัย-ประดิษฐ์มนูธรรม โครงการ CHER วัชรพล และโครงการ CHER งามวงศ์วาน-ประชาชื่น โดยเตรียมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2567 จำนวน 5 โครงการแนวราบใหม่ มูลค่ารวมกว่า 2,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ CHER เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ CHER พหลโยธิน-สายไหม CHER วิภาวดีรังสิต CORDIZ พัฒนาการ-อ่อนนุช และ CHER ปิ่นเกล้า-วงแหวน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าใน Segment ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดยโครงการแรกได้แก่ โครงการ CHER เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม 2-3 ชั้น ใจกลางย่านราชพฤกษ์ จำนวน 203 ยูนิต บนพื้นที่ 17-3-26.2 ไร่ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัท ยังได้วางงบประมาณการซื้อที่ดินเพื่อสร้างการเติบโตไว้กว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อที่ดินในหลากหลายทำเล เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ และเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและการขายรวม 11 โครงการ ซึ่งมีสินค้าพร้อมขายรวมมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท โดยเป็นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,300-1,500 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปีนี้และปี 2568 ได้อย่างแน่นอน