พฤกษาฯ ประเมินสถานการณ์ตลาดอสังหาฯปี 67 ปีที่ยากลำบาก มีหลายปัจจัยกระทบกำลังซื้อ รายได้ ดอกเบี้ยขยับสูงขึ้น พร้อมรุกขยายโครงการ “บ้านกรีนเฮ้าส์” ระดับราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท จับตลาดผู้มีรายได้น้อย หนุนรัฐบาลหนุนโครงการ "บ้านล้านหลัง"
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังคงไม่ดี และยังคงเป็นปีที่ยากลำบาก มีหลายปัจจัยที่กระทบกำลังซื้อผู้บริโภค ทั้งรายได้ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นไปค่อนข้างสูง ดังนั้น บริษัทจึงเห็นโอกาสของตลาดบ้านระดับราคาที่คนหมู่มากสามารถเข้าถึงได้ จึงได้ออกแบบ “บ้านกรีนเฮ้าส์” ทำให้คนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงได้ ด้วยราคาผ่อนกับธนาคารต่องวดไม่เกิน 5,000 บาท
สำหรับภาพรวมของตลาดที่ยังมีความต้องการซื้อบ้าน โดยจะอยู่ในกลุ่มราคา 3 ล้านบาท แต่ขึ้นกับทำเล ซึ่งมองว่าในปี 2567 จะมีการแข่งขันสูงแน่นอน เนื่องจากมีโครงการที่เปิดตัวปีนี้และเหลือขายไปปีหน้าค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงทำให้มองว่าในปี 2567 จะเป็นโอกาสของผู้ซื้อชัดเจน
"ท่ามกลางความท้าทายที่รอบด้านตั้งแต่ปีนี้ ถึงปี 2567 เราสัมผัสได้ถึงโอกาสของตลาดล่างที่ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อาจไม่มีโอกาส เนื่องจากธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยกู้ ขณะที่ผู้ประกอบการไม่มีสินค้าที่เข้ามาตอบโจทย์ แต่ในปัจจุบันถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ ซึ่งในปัจจุบันมีธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สนับสนุนโครงการบ้านล้านหลัง หรือเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้วในการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยแต่ต้องการที่อยู่อาศัย ขณะที่ธนาคารพาณิชย์หลายรายออกมานำเสนอสินเชื่อบ้านสีเขียว หรือกรีนโลน เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้ ยังอยากให้ภาครัฐสนับสนุนและทำต่อ โดยเฉพาะโครงการบ้านล้านหลัง ซึ่งรัฐทำดีอยู่แล้วและหวังว่าจะทำต่อ ส่วนผู้ประกอบการต้องรู้จักจับมาตรการเหล่านี้มาใช้ เช่น การที่พฤกษามีการพัฒนานวัตกรรมบ้านกรีนเฮ้าส์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่บริษัทได้ผลตอบรับจากตลาดค่อนข้างสูง"
ทั้งนี้ ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 บริษัทเตรียมที่จะเปิดโครงการ “บ้านกรีนเฮ้าส์” ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 โครงการ บนทำเลปริมณฑลของกรุงเทพฯ เพื่อตอบโจทย์เรื่องการออกแบบนวัตกรรมการอยู่อาศัย การสร้างชุมชน ราคาเข้าถึงได้ เป็นบ้านประหยัดพลังงานในระดับราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจุดขายที่เป็นจุดแข็ง ผู้กู้จะได้เข้าเกณฑ์สินเชื่อสีเขียว อัตราการดอกเบี้ยพิเศษ ทำให้อัตราการผ่อนชำระกับธนาคารต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาท
“ต้องยอมรับว่า ปีนี้โครงการใหม่เปิดไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ ต้องเลื่อนหลายโครงการไปเปิดในปี 2567 แทน ซึ่งเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงให้ตอบรับกับสภาพตลาดในปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทยังมีบ้านในสต๊อกทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ในทุกระดับราคาที่อยู่ระหว่างการรอขาย ซึ่งวิธีการเลื่อนเปิดโครงการเป็นการบริหารสต๊อกให้มีบ้านรอขายเพียงพอสำหรับการขายในอีก 3 ปีข้างหน้า ทำให้ในปีนี้บริษัทไม่จำเป็นต้องเร่งเปิดโครงการใหม่ๆ”
