ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ โชว์ผลงานท็อปฟอร์ม ปี 66 กวาดรายได้กว่า 18,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ เกินเป้าที่ตั้งไว้ที่ 17,000 ล้านบาท ขณะกำไรสุทธิแตะ 122.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.63% รับอานิสงส์ธุรกิจก๊าซ LPG ฟื้น ธุรกิจส่งออกไปได้สวย ตั้งเป้าปี 67 ยอดขายก๊าซ LPG ทะลุ 820,000 ตัน พร้อมบุกตลาดโซลาร์รูฟท็อป มั่นใจช่วยผลักดันรายได้ประจำ เตรียมทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท ลุยธุรกิจ Green Energy รองรับเมกะเทรนด์รักษ์โลก ตอบโจทย์ ESG หนุนผลงานนิวไฮต่อเนื่อง
น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้รวมอยู่ที่ 18,183.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,652.38 ล้านบาท หรือ 17.08% เทียบปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 15,531.58 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรสุทธิ 122.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.61 ล้านบาท หรือ 6.63% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 114.66 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยว รวมถึงราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ ในปี 2566 มียอดขายก๊าซ LPG กว่า 801,888 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 762,396 ตัน และส่งออกจำนวน 39,492 ตัน โดยบริษัทยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 168 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น รองรับความต้องการของผู้บริโภค
ส่วนความคืบหน้าธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ มั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้บริษัท หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 18,250 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายก๊าซ LPG จำนวน 820,000 ตัน เนื่องจากมองว่า อุตสาหกรรมก๊าซ LPG เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มผลงานในปีนี้มีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
สำหรับแผนลงทุนในปี 2567 ตั้งงบไว้ที่ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจ Green Energy 500 ล้านบาท และส่วนอื่นๆ อีกประมาณ 100 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงมองหาการลงทุนหรือขยายโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะอยู่ใน Trend การเติบโตในอนาคต เช่น โครงการพลังงานลม EV และ Battery Storage ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ สอดรับเมกะเทรนด์รักษ์โลก ตอบโจทย์ ESG หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
