ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ โชว์ผลงานปี 66 โตติดปีก รายได้ทะยานแตะ 1.4 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.068 บาท/หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 4 มี.ค.67 นี้ บิ๊กบอสคาดรายได้ปี 67 แตะ 1.5 พันล้านบาท นิวไฮต่อเนื่อง ตุนงานในมือแน่น 1,800 ล้านบาท จ่อรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 1 พันล้านบาท พร้อมประมูลงานใหม่มูลค่า 6.4 พันล้านบาท เน้น ESG “พลังงานหมุนเวียน-ประหยัดพลังงาน-ลดก๊าซเรือนกระจก” และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) (I2) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีรายได้รวม 1,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484 ล้านบาท หรือ 52% เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 943 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท หรือ 90% เทียบปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทได้รับงานโครงการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท และทยอยรับรู้รายได้ 3 ปี ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม 2566) เป็นเงินสดในอัตรา 0.068 บาท/หุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 มี.ค.67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พ.ค.67
“แผนการดำเนินงานในปี 2567 เรายังคงดำเนินงานตาม Solution ของบริษัท โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG การใช้พลังงานหมุนเวียน การประหยัดพลังงาน การลดก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการสรรหาลูกค้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีแผนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG และด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องเมกะเทรนด์” นายอธิพร กล่าว
สำหรับปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ แตะระดับ 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยการเติบโตมาจากธุรกิจด้านประหยัดพลังงาน (Energy) โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีแผนร่วมประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 6,455 ล้านบาท ผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าเติบโตก้าวกระโดด
ขณะที่ธุรกิจด้านไอทีและเทคโนโลยีไทย (IT&T) ในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตดี จาก Digital Transformation ส่งผลให้บริษัทต่างๆ และภาครัฐต่างหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ผลผลิต และประสบการณ์ลูกค้า
“ธุรกิจไอทีและเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการสนับสนุนของภาครัฐ และการขยายการลงทุนของภาคเอกชน ถือเป็นโอกาสของธุรกิจคลาวด์ ธุรกิจความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล และ AI ซึ่งปัจจุบันบริษัทเอกชน และภาครัฐหันมาใช้ข้อมูล AI เพื่อวิเคราะห์ธุรกิจ และลูกค้ามากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสของบริษัทในการเข้ารุกธุรกิจ และมีโอกาสการได้รับงานมากขึ้น จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านไอทีมาเป็นเวลายาวนาน” นายอธิพร กล่าว