xs
xsm
sm
md
lg

BTC แรงไม่หยุดทะลุ $50,000 ครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี อานิสงส์ ETF - บิตคอยน์ฮาฟวิ่ - แนวโน้มเฟดลดดบ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราคาบิตคอยน์ทะลุ 50,000 ดอลลาร์ครั้งแรกนับจากเดือนธันวาคม 2021 สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อเงินดิจิตอลสกุลนี้มากขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่า เฟดจะประเดิมลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ นอกจากนั้นยังเป็นผลจากการที่ SEC อนุมัติ Spot Bitcoin ETF รวมทั้งปรากฏการณ์บิตคอยน์ฮาฟวิ่งที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในอีกไม่เดือนข้างหน้า

ปี 2022 ราคาบิตคอยน์ทรุดลง 64% ลงไปอยู่ที่ 16,000 ดอลลาร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการล้มของ FTX กระดานเทรดคริปโตชื่อดัง อย่างไรก็ตาม ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคา BTC ดีดกลับประมาณ 129% แม้ยังต่ำกว่าสถิติสูงสุดที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 ก็ตาม และนับจากต้นปีจนถึงขณะนี้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 16% ทะลุหลัก 50,000 ดอลลาร์ครั้งแรกในรอบกว่าสองปีเมื่อวันจันทร์ (12 ก.พ.)

นับจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นักลงทุนทั้งรายย่อยและนักลงทุนประเภทสถาบันสามารถเข้าถึงบิตคอยน์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสินทรัพย์อ้างอิง และการผสมผสานระหว่างการเงินดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิตอลจากการที่บริษัทอย่างแบล็กร็อกและฟิเดลลิตี้เปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF ถูกมองว่าเป็นจุดพลิกผันสำหรับคริปโต

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความคาดหวังว่า กองทุนดังกล่าวจะดึงดูดนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนประเภทสถาบันจำนวนมากและนำบิตคอยน์เข้าสู่ตลาดกระทิง แต่กลับกลายเป็นว่า ในช่วงแรกราคา BTC กลับผันผวน

ผลลัพธ์ที่ผิดคาดจากการอนุมัติของ SEC ส่วนใหญ่เกิดจากการที่เม็ดเงินจำนวนมากไหลออกจาก Grayscale Bitcoin Trust ที่ได้รับอนุมัติให้แปลงเป็นกองทุน Spot Bitcoin ETF ฉุดราคาบิตคอยน์ร่วงลง 15% จากราคาเมื่อวันที่ 11 ม.ค.

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กระแสการไหลออกเริ่มเบาลง โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการเทรดกองทุน ETF ของ Grayscale มีเม็ดเงินไหลออกเฉลี่ยวันละ 500 ล้านดอลลาร์ แต่นับจากวันที่ 26 ม.ค. ตัวเลขดังกล่าวลดลงสม่ำเสมอ จากข้อมูลของบลูมเบิร์ก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ก.พ.) มูลค่าเงินไหลออกรวมอยู่ที่เพียง 51.8 ล้านดอลลาร์ ต่ำสุดนับจากวันที่ SEC อนุมัติกองทุน

ขณะเดียวกัน เม็ดเงินจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF อื่นๆ อีก 9 แห่ง เฉพาะสัปดาห์ที่แล้วมีมูลค่ารวมกันราว 1,200 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด

มัตเทโอ เกรโค นักวิเคราะห์ของบริษัทเพื่อการลงทุน Fineqia International ให้สัมภาษณ์กับฟอร์จูนว่า แรงซื้อกองทุน ETF เป็นปัจจัยหลักที่ดันราคาบิตคอยน์ในขณะนี้

เจฟฟ์ เคนดริก หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิตอลของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ขานรับว่า ถ้าเงินทุนยังไหลเข้า ETF ในระดับนี้คือประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ราคาบิตคอยน์จะบวกเพิ่มทุกวัน

ทางด้านนักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ประเมินว่า เม็ดเงินจะค่อยๆ ไหลเข้ากองทุน ETF และมีมูลค่ารวมกันทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 ขณะที่นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า เฉพาะปีนี้เพียงปีเดียวกองทุน ETF จะดึงดูดเงินลงทุนได้ถึง 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์ และนักวิเคราะห์อีกหลายคนคาดว่า ในช่วง 5 ปีจะมีเงินไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์นี้ 55,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น ปัจจัยสนับสนุนล่าสุดยังรวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า จะลดดอกเบี้ยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งมาร์คัส ธีเลน จาก 10x Research ชี้ว่า ช่วงที่ดอกเบี้ยสูง สินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์ที่มีสภาพคล่องและความผันผวนสูง มักมีแรงดึงดูดน้อยลง

เดฟ เนดิก นักอนาคตศาสตร์การเงินของ VettaFi สำทับว่า ปรากฏการณ์บิตคอยน์ฮาฟวิ่งที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ ทำให้คนมากมายหันมาสนใจ BTC และคาดได้ว่า ราคาบิตคอยน์จะพุ่งขึ้นต่อไป

ราคาบิตคอยน์ทะลุ 50,000 ดอลลาร์ครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันจันทร์ (12 ก.พ.)
กำลังโหลดความคิดเห็น