ไมเคิล เซย์เลอร์ ประธานกรรมการไมโครสเตรทเตอจี ชี้การเปิดตัวกองทุน BTC Spot ETF ของวอลล์สตรีทในเร็วๆ นี้ ถือเป็นพัฒนาการสำคัญพอๆ กับการเปิดตัวดัชนี S&P 500 ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และเชื่อว่า จะทำให้เงินทุนใหม่ๆ หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต
เซย์เลอร์เชื่อว่า BTC Spot ETF จะเป็นพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวอลล์สตรีทในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการเปิดตัวดัชนี S&P 500 ในปี 1993 ที่ช่วยให้นักลงทุนกระแสหลักเข้าถึงตลาดหุ้นอย่างครอบคลุมเป็นครั้งแรก
กองทุน BTC Spot ETF นั้นมีเป้าหมายในการนำเสนอช่องทางเข้าถึงสกุลเงินดิจิตอลอย่างง่ายดายสำหรับนักลงทุนทั่วไป จากก่อนหน้านี้ที่การซื้อบิตคอยน์หมายถึงการไล่ดูจากแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ซับซ้อนซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโกงและปัญหาการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่กองทุน BTC Spot ETF ที่ควบคุมโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์การเงินที่เชื่อถือได้ ตอบโจทย์เหล่านั้นทั้งหมด
ด้วยการขจัดอุปสรรคที่เคยขัดขวางการมีส่วนร่วม เซย์เลอร์คาดว่า กองทุน BTC Spot ETF จะกระตุ้นดีมานด์และดึงดูดเงินทุนที่ยังไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์เข้าสู่ตลาดคริปโต
เขายังคาดว่า แนวโน้มดังกล่าวจะเกิดขึ้นพร้อมกับปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่ซัปพลายเหรียญ BTC ลดจากวันละ 900 เหรียญ เหลือ 450 เหรียญ ซึ่งเมื่อการเปลี่ยนแปลงของซัปพลายและดีมานด์เกิดขึ้นพร้อมกันจะยิ่งส่งให้ราคาคริปโตสกุลนี้พุ่งแรง
รายงานก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่า เซย์เลอร์มีความหวังกับบิตคอยน์และคาดว่า ณ จุดใดจุดหนึ่งราคาจะขึ้นถึง 1 ล้านดอลลาร์
บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่างแบล็กร็อก, ฟิเดลิตี้, VanEck และอาร์ก อินเวสต์ ต่างยื่นขอจดทะเบียนกองทุน Bitcoin spot ETF กับ SEC โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น ผู้คนมากมายในอุตสาหกรรมไม่แน่ใจว่า กองทุนเหล่านี้จะได้รับอนุมัติเนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการปั่นราคา โซลูชันการดูแลรับฝากสินทรัพย์ การคุ้มครองนักลงทุน และความผันผวนของราคาบิตคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กองทุน Bitcoin spot ETF 6 แห่งที่ยื่นขออนุมัติในขณะนี้ได้ผ่านข้อกำหนดที่เคร่งครัดขึ้นสำหรับการป้องกันการฉ้อโกงและการเปิดเผยข้อมูลแล้ว ส่งผลให้ SEC ถูกกดดันให้อนุมัติกองทุนเหล่านี้
นอกจากนั้น ด้วยชื่อเสียงและขนาดกิจการของสถาบันการเงินที่ยื่นขออนุมัติเหล่านั้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงเชื่อว่า SEC จะไฟเขียวกองทุน Bitcoin spot ETF หนึ่งแห่งขึ้นไปในช่วงต้นปีหน้า
หากเป็นเช่นนั้นจริงจะมีผลอย่างมากกับการยอมรับ BTC ในหมู่สถาบันการเงินกระแสหลัก และมีแนวโน้มดึงดูดเงินทุนมหาศาลซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดคริปโต
ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า กิจกรรมการเทรดที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจาก ETF จะลดความผันผวนของราคาบิตคอยน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป และปรับปรุงไดนามิกในการคาดการณ์ราคาในอนาคต นอกจากนั้นยังคาดว่า ราคาที่เสถียรขึ้นประกอบกับการที่นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จะส่งเสริมศักยภาพการเติบโตของมูลค่าบิตคอยน์อย่างมาก
เซย์เลอร์ทิ้งท้ายว่า ไมโครสเตรทเตอจีจะยังคงใช้ประโยชน์จากเลเวอเรจและกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มการถือครองบิตคอยน์ต่อไป แทนที่จะเทขายเพื่อนำเงินไปลงทุนใน Bitcoin spot ETF
