“แอสเซทไวส์” ลุยปี 67 เผยแผนธุรกิจชู 3 กลยุทธ์หลัก “Execute/Expand/Explore” มุ่งนำธุรกิจเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ด้วยแนวคิด “THE NEW FRONTIERS” ลุยเปิด 12 โครงการ มูลค่ากว่า 25,920 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 17,800 ล้านบาท รุกแผนเปิดโครงการแนวราบ ขยายทำเลครอบคลุมกรุงเทพฯ EEC และภูเก็ต เสริมแกร่งด้วยธุรกิจใหม่เพิ่มรายได้ต่อเนื่อง
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,260 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้เดิม 12 โครงการ และสามารถทำยอดขายปี 2566 ได้ถึง 16,486 ล้านบาท สูงทะลุเป้าที่วางไว้ ซึ่งเติบโตกว่า 16%
สำหรับทิศทางอสังหาฯ ในปี 2567 นี้ ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางเดียวกับ GDP ของประเทศ ซึ่งแนวโน้มภาพรวมในวันนี้ยังมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง มีปัจจัยบวก เช่น การต่ออายุมาตรการลดค่าโอนออกไปอีก 1 ปี รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้
อย่างไรก็ตาม ASW ยังคงเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยปี 2567 ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 9 โครงการ และแนวราบ 3 โครงการ พร้อมตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 17,800 ล้านบาท เติบโตประมาณ 8% จากปี 2566 และเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 8,700 ล้านบาท ซึ่งจะขับเคลื่อนด้วยแนวคิด “THE NEW FRONTIERS” โดยบูรณาการ 3 กลยุทธ์หลักซึ่งประกอบไปด้วย
Execute การรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตคอนโดฯ ที่มี 3 แบรนด์อย่าง KAVE, ATMOZ และ MODIZ ปักหมุดทั่วเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยในปีนี้จะเปิดคอนโดฯ รวม 6 โครงการ มูลค่า 10,820 ล้านบาท รวมถึงเปิดตัวบูทีคคอนโดฯ แบรนด์ใหม่ Maroon รัชดา 32 และ Aquarous บนทำเลจอมเทียน-พัทยา
Expand การขยายโครงการให้เติบโตในทุกมิติทั้งด้านทำเล สินค้า และราคา รวมถึงพัฒนาโครงการแนวราบ ภายใต้แบรนด์ ESTA, THE ARBOR, THE HONOR และล่าสุด CHANN The Riverside บ้านเดี่ยวบูทีคติดแม่น้ำท่าจีนบนโค้งน้ำเส้นบรมราชชนนี รวมถึงการรุกเจาะขยายธุรกิจสู่พื้นที่ EEC
สำหรับแผนรุกอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ในปี 2567 มีแผนเปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการเดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท โครงการเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท และโครงการเดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว (BOTANICA Grand Avenue) ลักชัวรีพูลวิลล่าที่เป็นเมกะโปรเจกต์ มูลค่า 13,000 ล้านบาท
และ Explore การลงทุนใหม่ๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ Well Aesthetic & Wellness Center และล่าสุดกับ มิงเกิ้ล สปอร์ต วิลเลจ ศูนย์กีฬาในร่มเอาใจสายรักสุขภาพ รวมถึง ZAAP World ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ต และอีเวนต์ต่างๆ
พร้อมกันนี้ แอสเซทไวส์ยังมีโครงการที่สร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนในปี 2567 อีกจำนวน 9 โครงการ มียอด Backlog อยู่ ถึง 19,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567 ต่อเนื่องไปถึงปี 2569