หุ้นไทยปิดตลาด +13.03 จุด นักวิเคราะห์ชี้ ดัชนีหุ้นไทยฟื้นขึ้นตามตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะจีนและฮ่องกง ตอบรับจิตวิทยาบวกหลัง นายสี เจิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าพบ ก.ล.ต. จีน เพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนตลาดหุ้นที่ออกมาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนวต้านที่ 1,410 จุด และแนวรับที่ 1,390 -1,380 จุด แนะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อหาสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 ก.พ. 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +13.03 จุด หรือ +0.94% โดยปิดตลาดที่ 1,396.96 จุด มูลค่าซื้อขาย 50,709.59 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับขึ้นทดสอบ 1,400 จุด แต่ยังไม่สามารถยืนได้ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,400.63 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,385.92 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 343 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 165 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 143 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,613.17 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,916.57 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -555.99 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,140.62 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,446.51 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,426.53 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.BCH มูลค่าการซื้อขาย 1,346.80 ล้านบาท ปิดที่ 22.20 บาท ลดลง 0.70 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,250.95 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,221.69 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 242.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.26%
2.SAPPE ปิดที่88.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 3.20%
3.DELTA ปิดที่82.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 2.80%
4.SCC ปิดที่274.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.74%
5.JMT ปิดที่22.70บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ 6.07%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่218.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.46%
2.MOSHI ปิดที่52.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.41%
3. BCH ปิดที่22.20 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ 3.06%
4.INTUCH ปิดที่73.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.01%
5.CBG ปิดที่75.25บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.33%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,895.61 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ 1.02% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 855.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.85 จุด หรือ 1.05% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 416.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.26 จุด หรือ 1.52%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะจีนและฮ่องกง ตอบรับจิตวิทยาบวก 3 เรื่อง คือ ภาพตลาดโลกเริ่มปรับลดความคาดหวังต่อมุมมองดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากเดิมที่คาดว่าจะปรับลด 6 ครั้ง ล่าสุดเหลือ 4.5 ครั้ง สอดคล้องกับ MUFG คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยราว 4 ครั้ง สะท้อนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) มีโอกาสปรับลงหลังพุ่งขึ้นมาแรง
ขณะที่ยังได้แรงหนุนจากโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยเริ่มดูดีขึ้น โดยเฉพาะจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง อาจเป็นปัจจัยหนุนต่อการปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้
รวมถึงจีนให้ความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้นอย่างมาก โดยล่าสุดนายสี เจิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าพบ ก.ล.ต. จีน เพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนตลาดหุ้นที่ออกมาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งการควบคุม Short Sell หุ้น ให้กองทุนขนาดใหญ่หยุดปล่อยหุ้นให้ยืม Short และปรับลดระดับ Margin Call ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อลดการถูกบังคับขาย
"แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ให้แนวต้านที่ 1,410 จุด และแนวรับ 1,390-1,380 จุด แนะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อหาสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ย" นายกรภัทร กล่าวทิ้งท้าย