xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยบวกรับลูกเฟดต่อเนื่องปิดตลาด +16.12 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +16.12 จุด นักวิเคราะห์เผยดัชนีปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เห็นสัญญาณบวกมากขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดคงดอกเบี้ยตามที่ประเมินไว้ ชี้อาจเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงได้ในเดือน พ.ค.นี้ ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวต้าน 1,400 จุด และแนวรับที่ 1,370 จุด แนะจับตาการเปิดเผยตัวเลขแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกกับการลงทุน

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 2 ก.พ.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +16.12 จุด หรือ +1.18% โดยปิดตลาดที่ 1,384.08 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,159.93 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,386.67 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,375.37 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 327 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 174 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 153 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,097.47 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +743.31 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,358.38 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -482.40 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,029.52 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,420.51 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,381.90 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,189.78 ล้านบาท ปิดที่ 121.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 934.70 ล้านบาท ปิดที่ 16.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AEONT ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50บาท หรือ 2.34%
2.SCC ปิดที่ 276.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 1.10%
3.DELTA ปิดที่ 80.75บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 3.53%
4.EGCO ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 1.52%
5.MTC ปิดที่ 44.75บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 4.68%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAPPE ปิดที่ 85.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.45%
2.RCL ปิดที่ 24.30 บาท ลดลง 1.20 บาท หรือ 4.71%
3.ICHI ปิดที่ 16.90 บาท ลดลง 0.30บาท หรือ 1.74%
4.PTT ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.73%
5.MEGA ปิดที่ 42.00 บาท ลดลง 0.25บาท หรือ 0.59%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,877.31 จุด เพิ่มขึ้น 24.74 จุด หรือ 1.34% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 847.31 จุด เพิ่มขึ้น 11.16 จุด หรือ 1.33% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 409.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.29 จุด หรือ 0.32%

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกมากขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคงดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ และมีน้ำหนักมากขึ้นที่อาจเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลงได้ในเดือน พ.ค.นี้ นักลงทุนจึงเชื่อว่าดอกเบี้ยเฟดได้ผ่านจุดพีกไปแล้ว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยิลด์) ปรับตัวลง ส่งผลดีต่อต้นทุนของหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ที่วันนี้ปรับตัวขึ้นมารับกับประเด็นดังกล่าว

อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน ม.ค.ที่เพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มในเดือน ก.พ. ซึ่งตามสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมักจะสูงกว่าเดือน ม.ค. ทำให้เห็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่าง AOT CPALL และ BJC เป็นต้น

"แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้น ให้แนวต้าน 1,400 จุด และแนวรับที่ 1,370 จุด แนะติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และในคืนนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขแรงงานของสหรัฐฯ หากออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดจะเป็นผลดีต่อตลาด" นายวทัญ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น