หุ้นไทยปิด -13.38 จุด นักวิเคราะห์เผยแรงกดดันกระแสข่าว GDP ไทยปี 66 โตเพียง 1.8% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.3% ทำให้เกิดความกังวลและเทขายหุ้นออกมาก่อน ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,342-1,350 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด ลุ้นเป็นโอกาสรีบาวด์วันพรุ่งนี้
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 23 มกราคม 2567 ปรับตัวลดลง -13.38 จุด หรือ -0.98% โดยปิดตลาดที่ 1,356.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีผันผวนโดยภาคเช้าปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ก่อนที่จะปรับตัวลดลงแรงในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,375.76 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,352.48 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 85 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 148 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 420 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,339.15 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +200.42 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,032.67 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า-506.90 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,932.53 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,830.74 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,469.74 ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
4.JMT มูลค่าการซื้อขาย 1,738.65 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท ลดลง 2.20 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,345.19 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAPPE ปิดที่ 84.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 1.20%
2.INTUCH ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.70%
3.SJWD ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 3.88%
4.KBANK ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.41%
5.BBL ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.35%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 238.00 บาท ลดลง4.00บาท หรือ 1.65%
2.SCC ปิดที่ 267.00 บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 1.48%
3.JMT ปิดที่ 21.20 บาท ลดลง 2.20บาท หรือ 9.40%
4.AEONTS ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 1.32%
5.RCL ปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 4.72%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,839.46 จุด ลดลง -15.87 จุด หรือ -0.86% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 830.52 จุด ลดลง -6.16 จุด หรือ -0.74% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 405.13 จุด ลดลง -5.94 จุด หรือ -1.45%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจากกรณีที่โฆษกรัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ากระทรวงการคลังรายงานตัวเลข GDP ปี 66 ขยายตัว 1.8% จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คาดการณ์ครั้งสุดท้ายที่ประมาณ 2.3% ซึ่งต่ำกว่าราว 0.5% ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล แต่เนื่องจากข่าวมาจากโฆษกรัฐบาล จึงต้องระวังเรื่องความสับสนของข้อมูล แต่ก็ส่งผลให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายออกมาก่อน รวมทั้ง Futures ปรับลงด้วย ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงมาที่ 1,354 จุด ซึ่งเป็นแนวรับเดิมที่เคยทำจุดต่ำสุดไว้เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ได้ โดยต้องติดตามว่ากระทรวงการคลังจะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยออกมาอย่างไร โดยประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ในแนวรับที่ 1,342-1,350 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,380 จุด