หุ้นไทยปิดร่วงเล็ดน้อย -3.14 จุด นักวิเคราะชี้ หุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบตลอดทั้งวัน หลังไม่มีปัจจัยทั้งบวกส่งผลต่อดัชนี ขณะที่ปัจจัยเชิงลบยังอยู่ที่ความกังวลผลประชุมเฟดและความเห็นของประธานเฟดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย โดยประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,382 จุด และแนวรับ 1,370 จุด แนะจับตาประเด็นการเมืองในประเทศจากกำหนดการอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในคดีนโยบายพรรคก้าวไกลที่หาเสียงแก้มาตรการ 112 จะเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 มกราคม 2567 ปรับตัวลดลง -3.14 จุด หรือ -0.23% โดยปิดตลาดที่ 1,373.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 42,491.74 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบแคบ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,378.34 จุด ในขณะที่ทิศทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,370.70 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 224 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 182 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 242 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,171.70 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +447.51 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า -1,396.64 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -222.57 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,596.67 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,201.72 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.BJC มูลค่าการซื้อขาย 1,173.41 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
4.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 979.85 ล้านบาท ปิดที่ 5.90 บาท ลดลง 0.05 บาท
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 961.38 ล้านบาท ปิดที่ 16.10 บาท ลดลง 0.20 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EA ปิดที่ 40.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 2.55%
2.MTC ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 2.40%
3.INTUCH ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 1.37%
4.DELTA ปิดที่ 80.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 1.27%
5.EGCO ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 0.75%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 146.50 บาท ลดลง 3.00บาทหรือ 2.01%
2.SCC ปิดที่ 269.00 บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 0.74%
3.CPN ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 1.25บาทหรือ 1.90%
4.CRC ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 1.00บาทหรือ 2.86%
5.SAPPE ปิดที่ 85.75 บาท ลดลง 1.00บาทหรือ 1.15%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,859.53 จุด ลดลง -5.38 จุด หรือ -0.29% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 838.49 จุด ลดลง -2.81 จุด หรือ -0.33% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 410.43 จุด ลดลง -0.43 จุด หรือ -0.10%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบตลอดทั้งวัน ไร้ปัจจัยใหมี่ที่มีผลต่อดัชนี ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนปรับลงจากประเด็นศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ยุติกิจการและขายสินทรัพย์
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยวอลุ่มการซื้อขายยังไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามปัจจัยจากทางฝั่งสหรัฐ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน , ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความเห็นของประธานเฟดต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตลาดมองโอกาสลดดอกเบี้ยในรอบนี้ลดลง และน่าจะมีการลดดอกเบี้ยครั้งแรกเดือน พ.ค. หรือเดือน มิ.ย.
ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงเล็กน้อย เพราะสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางไม่ได้มีความรุนแรงเพิ่มเติม
"แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ นักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานของสหรัฐคืนนี้ ซึ่งหากไม่ได้พุ่งขึ้นแรง ตลาดน่าจะไม่ได้ไปไหนไกล และยังต้องเกาะติดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีนโยบายพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้มาตรการ 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ อาจส่งผลให้ดัชนีแกว่งแรง ให้แนวต้าน 1,382 จุดและแนวรับ 1,370 จุด" นายศราวุธ กล่าวทิ้งท้าย