สื่อนอกเผยนับตั้งแต่วิกฤติตลาดคริปโตในปี 2565 มีสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากถูกทิ้งกลายเป็นขยะไร้ค่าในระบบบล็อกเชนโดยมี memecoins และโทเค็นอเนกประสงค์เป็นจำนวนมากที่สุด
การศึกษาล่าสุดโดย CoinGecko เผยให้เห็นว่ามากกว่า 50% ของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดที่จดทะเบียนบนแพลตฟอร์มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 ได้ถูกละทิ้งหรือกลายเป็นขยะไร้ค่าในระบบบล็อกเชนไปแล้ว โดยสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 24,000 สกุล ที่จดทะเบียนใน CoinGecko ตั้งแต่ปี 2557 มีจำนวน 14,039 สกุลที่ถือว่า 'ตาย' หรือ 'ไร้มูลค่า'
เหรียญที่ตายมากที่สุดเชื่อมโยงกับ Bull Run ปี 2563-2564
การศึกษาซึ่งวิเคราะห์ชะตากรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบของความล้มเหลวของสกุลเงินดิจิทัลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเหรียญที่ถูกละทิ้งเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากโครงการที่เปิดตัวในช่วงกระทิงปี 2563-2564
อย่างไรก็ดีในช่วงเวลานี้ มีสกุลเงินดิจิทัลจำนวน 7,530 สกุลที่ภูกละทิ้งให้ไร้มูลค่าคิดเป็น 53.6% ของสินทรัพย์ที่ล้มเหลวทั้งหมดบน CoinGecko ขณะที่มีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 11,000 สกุลถูกจดทะเบียนบน CoinGecko ในช่วงตลาดขาขึ้นนี้ โดยประมาณ 70% ได้ปิดตัวลงตั้งแต่นั้นมา
ในการเปรียบเทียบ ช่วงขาขึ้นครั้งก่อน (2560-2561) มีอัตราความล้มเหลวที่คล้ายคลึงกัน โดยประมาณ 70% ของสกุลเงินดิจิทัลกว่า 3,000 รายการที่แสดงในช่วงเวลาดังกล่าวได้ปิดตัวลงแล้ว ปี 2564 ถือเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการเปิดตัวโครงการ โดยมีสกุลเงินดิจิทัล 5,724 สกุลที่ถึงจุดสิ้นสุด ณ เดือนมกราคม 2567
ขณะที่อัตราความล้มเหลวมากกว่า 70% ที่เน้นถึงความท้าทายที่โครงการต่างๆ ที่เปิดตัวในช่วงปีที่วุ่นวายนั้นต้องเผชิญ อย่างไรก็ดีการเพิ่มขึ้นของเหรียญที่ตายแล้วในช่วงปี 2563-2564 เป็นผลมาจากความง่ายในการปรับใช้โทเค็น และ ความนิยม ที่เพิ่มขึ้นของเหรียญ Meme
เนื่องจากโครงการต่างๆ เปิดตัวโดยไม่มีผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ และนำไปสู่การละทิ้งไปในช่วงเวลาสั้นๆ สถานการณ์ไม่ดีขึ้นสำหรับโครงการที่เปิดตัวในปี 2565 โดยที่สกุลเงินดิจิทัลจดทะเบียน 3,520 รายการจากประมาณ 5,800 รายการล้มเหลวไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงอัตราความล้มเหลวประมาณ 60%
อย่างไรก็ตาม มีความหวังริบหรี่สำหรับโทเค็นที่จดทะเบียนในปี 2565 โดยมีเพียง 289 รายการจากกว่า 4,000 สกุลเงินดิจิทัลที่ถึงจุดจบ ส่งผลให้อัตราความล้มเหลวลดลงอย่างมากที่น้อยกว่า 10%
ปัจจัยที่นำไปสู่การเป็นเหรียญขยะถูกปิดใช้งาน
ตามรายงาน ปัจจัยต่างๆ อาจทำให้ cryptocurrencies ไม่ทำงานบน CoinGecko การไม่มีกิจกรรม ซึ่งหมายถึงไม่มีกิจกรรมการซื้อขายภายใน 30 วัน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่การปิดใช้งาน
นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อหรือการรายงานที่น่าเชื่อถือต่อ CoinGecko อาจส่งผลให้มีการปิดใช้งานโครงการที่ถูกเปิดเผยว่าเป็นการฉ้อโกงหรือมีส่วนร่วมในการหลอกลวงทางออก
นอกจากนี้เหตุผลทั่วไปประการหนึ่งที่โครงการสกุลเงินดิจิทัลพิจารณาปิดการใช้งานคือเมื่อทีมงานโครงการตัดสินใจที่จะยุบ เปลี่ยนโฉมใหม่ ยุติ หรือทำให้โทเค็นไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือล้าสมัยได้ สิ่งนี้จะแจ้งให้พวกเขาขอการปิดใช้งานขณะสำรวจการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
