xs
xsm
sm
md
lg

DELTA...หุ้นอันตรายแห่งปี 67 / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนเปิดเผยผลสำรวจสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 26 สำนัก โดยนอกเหนือการประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปี 2567 แล้ว ยังแนะนำหุ้นที่น่าสนใจ แถมด้วยหุ้นที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงอีกด้วย

ประมาณการเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้ ค่าเฉลี่ยจากมุมมองนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนอยู่ที่ 1,590 จุด ส่วน 4 หุ้นเด่นที่น่าสนใจประกอบด้วย หุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT

หุ้นบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL หุ้นบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC

ส่วนหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงคือ หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และหุ้นบริษัทที่มีภาระการกู้ยืมสูงหรือหุ้นบริษัทที่มีการเพิ่มทุน

หุ้นเด่นที่สมาคมนักวิเคราะห์เฟ้นมาแนะนำ 4 บริษัท นักลงทุนคงต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเข้าไปลงทุนหรือไม่

เช่นเดียวกับหุ้นที่แนะควรหลีกเลี่ยงลงทุน ซึ่งไม่เฉพาะ DELTA ตัวเดียวเท่านั้น แต่ยังมัดรวมหุ้นหุ้นที่มีภาระการกู้ยืมสูงและหุ้นที่ประกาศเพิ่มทุน

หุ้นบริษัทจดทะเบียนที่มีภาระการกู้ยืมสูงหรือมีหนี้เป็นจำนวนมากมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฐานะทางการเงิน ไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนได้ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายปี สร้างความเสียหายให้ทั้งผู้ถือหุ้นกู้ และนักลงทุนที่ซื้อหุ้นสามัญ

ปีนี้มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนมูลค่ารวม 1.07 ล้านล้านบาท และกังวลกันว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นฐานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่หุ้นถูกถล่มขายจนรูดหนัก

หุ้นบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศเพิ่มทุนอาจสะท้อนถึงปัญหาฐานะทางการเงินที่อ่อนแอ จนต้องระดมทุนเพิ่ม ซึ่งทำให้นักลงทุนที่ใส่เงินเพิ่มทุนมีความเสี่ยงจากเงินที่เติมเข้าไปในบริษัท

สำหรับ DELTA ถูกประกาศชื่อหรา และเป็นหุ้นเพียงตัวเดียวที่สมาคมนักวิเคราะห์ตีตราว่า เป็นหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงประจำปี 2567 เนื่องจากเกินปัจจัยพื้นฐานไปมาก

การถูกประทับตราว่าเป็นหุ้นเสี่ยงสูงหรืออันตรายต่อการลงทุน ส่งผลกระทบเชิงลบ และราคาหุ้นน่าจะดิ่งลง แต่ DELTA กลับพุ่งสวนขึ้นมา โดยการซื้อขายวันอังคารที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ราคาทะยานขึ้นไปที่ 87.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ก่อนปิดที่ 85.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,435.25 ล้านบาท

DELTA มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เกตแคป 1.06 ล้านล้านบาท เป็นหุ้นที่มีขนาดมาร์เกตแคปใหญ่ที่สุด มีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีสูง และมักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการชี้นำดัชนี 50 ซึ่งนักลงทุนต่างชาติมีการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า SET50 ฟิวเจอร์ส SET50 จำนวนมาก

และใช้ DELTA เป็นตัวลากหรือทุบดัชนี 50 เพื่อผลการทำกำไรจากสัญญาฟิวเจอร์สเซต 50 ราคาหุ้น DELTA ในหลายวาระโอกาสจึงขึ้นลงโดยไม่มีเหตุผลสนับสนุน ไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น

ตลาดหลักทรัพย์เคยตรวจสอบการซื้อขายหุ้น DELTA ในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง แต่ไม่พบกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการสร้างราคา

ราคา DELTA เคยถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 119.50 บาท หลังการแตกพาร์ หรือแตกมูลค่าหุ้นจากพาร์ 1 บาทเหลือ 10 สตางค์ เมื่อเดือนเมษายน 2566

ถ้าเทียบราคาหุ้นกับปัจจัยพื้นฐาน DELTA ถือว่าวิ่งล้ำหน้าพื้นฐาน โดยมีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 59 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทนเพียงประมาณ 0.47% และมูลค่าหุ้นทางบัญชีเพียง 5.15 บาทต่อหุ้นเท่านั้น

การที่ DELTA ยังมีแรงซื้อแรงขายหนาตา น่าจะเกิดจากนักลงทุนต่างชาติ โดยมีนักลงทุนรายย่อยในประเทศเข้าไปเก็งกำไรแลกหมัดวังดวงด้วย เพราะราคาหุ้นขึ้นลงวูบวาบ จังหวะดีทำกำไรได้เหมือนกัน แต่ถ้าพลาดมีโอกาสเจ็บหนัก

นักวิเคราะห์การลงทุนยกให้ DELTA เป็นหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงประจำปี 2567 ใครจะเสี่ยงเข้าไปเล่น ตัวใครตัวมันแล้วกัน








กำลังโหลดความคิดเห็น