หุ้นเช้าปิดบวก 10.69 จุด นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นรับแรงเก็งกำไร DELTA ดันดัชนี 7-8 จุด ขานรับแตกพาร์-ผลงานดีกว่าคาด และแรงซื้อกลับหุ้นที่ถูกเทขายหนัก ทั้งกลุ่มพลังงาน หุ้นกลาง-เล็ก และกลุ่ม JMART แนะจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่อเนื่องคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 3 ครั้งไปถึง 5.50% จากเดิมคาด 5.00-5.25% ทำเงินทุนต่างชาติไหลออก แนวโน้มช่วงบ่ายคาดย่อตัวและอาจเห็นแรงขาย DELTA หลังขึ้นมาแพงมากแล้ว
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ภาพตลาดปรับตัวขึ้นได้รับผลจากแรงเก็งกำไรหุ้น DELTA ที่มีผลต่อดัชนี 7-8 จุด และเปลี่ยนกลุ่มเล่น โดยกลุ่มที่มีแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มที่มีแรงขายหนักก่อนหน้า ทั้งหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นขนาดกลางและเล็ก หุ้นกลุ่ม JMART
สอดคล้องกับมุมมองของยูโอบีฯ ที่แนะนำการลงทุนช่วงนี้ให้หาหุ้น Laggard และหุ้น Valuation ต่ำ โดยการเลือกเฟ้นหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 4/65 อาจจะแย่แต่แนวโน้มไตรมาส 1-2 ปี 66 ดีขึ้น สามารถเข้าลงทุนได้ เช่น IRPC, PTTGC, OR และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น GPSC, BGRIM, GULF
พร้อมแนะจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่อเนื่อง โดยล่าสุดเดือน ม.ค.บวก 6.4% สูงกว่าคาด ทำให้มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปถึง 5.50% จากเดิมคาดไว้ 5.00-5.25% ในการประชุม 3 ครั้งเดือนมี.ค. พ.ค. และ มิ.ย.จะปรับขึ้นคราวละ 0.25% และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะยังไม่ยุติขึ้นดอกเบี้ยปลายปี 66
จากภาพดอกเบี้ยปรับขึ้นทำให้เงินทุนต่างชาติมีโอกาสเคลื่อนย้ายออกไป จึงจะยังเห็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และต่างชาติเปิด short เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้น ทำให้กรอบดัชนี SET ไตรมาส 1/66 คาดว่าจะแกว่งตัว 1,630-1,670 จุด อัปไซด์เริ่มจำกัด และดาวน์ไซด์มีมากขึ้น จึงควรระมัดระวังการลงทุน
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,658.08 จุด เพิ่มขึ้น 10.69 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.65% มูลค่าการซื้อขาย 37,461 ล้านบาท
แนวโน้มช่วงบ่ายมองว่าตลาดอาจย่อตัวจากแรงขายทำกำไร DELTA ที่กังวล Valuation สูง และราคาพุ่งขึ้นมาแรงตอบรับเรื่องแตกพาร์ไปมากแล้วน่าจะไปต่อยาก ให้แนวรับที่ 1,645 จุด แนวต้านที่ 1,660 จุด