บรรดานักเก็งกำไรคาดกันว่าหลังจากหุ้น บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA แตกพาร์หรือแตกมูลค่าหุ้น ราคาหุ้นตัวนี้จะซื้อขายกันระดับ 100 บาท แต่เกิดการพลิกล็อกครั้งใหญ่
เพราะก่อนการแตกพาร์ จากพาร์ 1 บาท เหลือพาร์ 10 สตางค์เพียง 1 วัน ราคาหุ้น DELTA เกิดความผันผวนรุนแรง ถูกถล่มขายจนทรุดฮวบ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา การแตกพาร์ DELTA เหลือ 10 สตางค์ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2566 ซึ่งราคาหุ้นขึ้นไปตอบรับในวันพุธที่ 26 เมษายน โดยปรับตัวขึ้น 8 บาท ปิดที่ 896 บาท
แต่การซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน DELTA ถูกถล่มทันทีที่เปิดตลาด โดยเปิดที่ 862 บาท ก่อนไหลรูดลงไปปิดที่ 748 บาท ลดลง 148 บาท หรือลดลง 16.52% มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 3,849.77 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นที่มูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน
ส่วนดัชนีหุ้นวันเดียวกันปิดที่ 1531.23 จุด ลดลง 12.72 จุด โดยหุ้น DELTA เพียงตัวเดียวมีส่วนฉุดดัชนีลงไปมาประมาณ 14 จุด
สถานการณ์หุ้น DELTA ก่อนซื้อขายภายใต้พาร์ใหม่ ผิดจากความคาดหมายอย่างถล่มทลาย และทำให้นักลงทุนที่เข้าไปเก็บหุ้น หวังดักเก็งกำไรแตกพาร์ขาดทุนป่นปี้
ราคาปิดที่ 748 บาท เป็นราคาต่ำสุดในปี 2566 หลังจากเคยถูกลากขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ราคา 1,154 บาท เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา โดยภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ลดลงมา 406 บาท
ค่าพี/อี เรโช DELTA ลดงมาเหลือ 57 เท่า แต่ยังสูงอยู่ แม้ว่าผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ที่ประกาศออกมาจะเติบโต โดยมีกำไรสุทธิ 3,614.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,780.13 ล้านบาทก็ตาม
DELTA หลุดจากตำแหน่งแชมป์หุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปสูงที่สัดส่วนอันดับ 1 ลงมาแล้ว โดยมาร์เกตแคปลดลงเหลือ 933,041.45 ล้านบาท และหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ขึ้นมาเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปสูงสุดอันดับ 1 แทน
นักเก็งกำไรหุ้นแตกพาร์เคยเจ็บหนักมาแล้วจากหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ซึ่งแตกพาร์จาก 10 บาทเหลือ 1 บาท เมื่อเดือนเมษายน 2561 โดยก่อนแตกพาร์ราคาเคลื่อนไหวอยู่ 500 บาทเศษ และแตกพาร์เล่นกันที่ 50 บาทเศษ แต่หลังจากนั้นราคาซึมลง และย่ำฐานอยู่ 30 บาทเศษมายาวนาน
นักลงทุนที่เข้าไปเก็บหุ้น PTT ดักเก็งกำไรหุ้นแตกพาร์ ถ้ายังไม่ตัดขาดทุนต้องติดดอยยาวมา 5 ปีเต็ม
สำหรับ DELTA นักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปเล่นรู้ดีอยู่แก่ใจถึงความเสี่ยง อันตราย และความผันผวนที่พร้อมจะเกิดขึ้นทุกเวลา แต่อดไม่ได้ที่จะตามแห่กันเข้าไป
เพราะราคาหุ้นขึ้นลงที่ร้อนแรงยั่วยวนให้เข้าไปเสี่ยง โดยมีจำนวนนักลงทุนรายย่อยที่เข้าไปถือหุ้นอย่างมากกว่า 1.2 หมื่นราย ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะแบกหุ้นต้นทุนสูงอยู่
อย่างไรก็ตาม DELTA เป็นหุ้นแมวเก้าชีวิต ไม่ปิดฉากง่ายๆ และอาจไม่นานเกินรอคงลากขึ้นมารอบใหม่
เพียงแต่การทุบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ใครหนีออกไม่ทัน ถูกหามส่งห้องไอซียูกันเท่านั้น
ถ้ายังไม่เข็ดขยาด ถ้าเจ็บแล้วไม่จำ รอบหน้าลองใหม่กับ DELTA ได้