ตบหน้า ดร.เศรษฐพุฒิ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติไปเต็มๆ หลังจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เศรษฐา ทวีสิน โพสต์ข้อความผ่านโซเชียล พาดพึงถึงการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ
ข้อความดังกล่าวระบุว่า “การที่แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยทั้งๆ ที่เงินเฟ้อติดลบติดต่อกันหลายๆ เดือนนั้น ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเลย และยังมีผลกระทบต่อประชาชนที่มีรายได้น้อย และ SME อีกด้วย”
เป็นการเปิดศึกความขัดแย้งของทั้งคู่ในฐานะผู้บริหารองค์กรสูงสุดของประเทศอีกยก และน่าจะไม่ใช่เพราะแค่มีคนข้องใจตั้งคำถามถึงแบงก์ชาติว่า ทำไมเศรษฐกิจไม่ดี แต่แบงก์มีกำไรสูงเป็นประวัติศาสตร์ถึง 2.2 แสนล้านบาทเท่านั้น
อาการแบบนี้น่าจะเรียกว่า "คาใจ" ตั้งแต่ยกก่อนหน้าที่ยังดูเชิงไม่ค่อยได้ออกอาวุธหนักกันเท่าไร
หากย้อนดูปมพิพาทของทั้งคู่รอบนี้ถือเป็นยกที่ 3 แล้วที่นายกฯ กับผู้ว่าฯ ต้องปะทะกัน
ยกแรกเป็นการลองของในช่วงต้นของกาารรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับประเด็นการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติทเวงติง สวนทางกับนายกรัฐมนตรีโดยระบุว่า
“ประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เศรษฐกิจยังเติบโตได้ คือ ไม่ห้ามแจกเงินแต่ต้องไม่หว่านแห เพราะผลที่กลับมาน้อยกว่าเม็ดเงินที่หว่านไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่มีแนวร่วมเยอะมาก ทั้งนักวิชาการ ภาคธุรกิจ
ยกแรก นายกฯ ต้องยอมถอย เก็บไว้ในใจ และดูเหมือนผู้ว่าฯ แบงก์ชาติจะชนะไปในยกนี้
ทำเอามีกระแสข่าวลือออกมาว่าอาจมีการปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนปัจจุบันกันเลยทีเดียว กระทั่งนายกฯ เศรษฐา ต้องออกมาปฏิเสธระบุว่า
"ไม่เคยมีความคิดที่จะปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ และเป็นเรื่องที่ตลกมาก เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรต่อกัน ยังคงทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี โดยสิ่งที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติให้ก็พร้อมรับและปฏิบัติ"
เหมือนจะจบลงด้วยดี แต่กลับมียกที่ 2 เกิดขึ้นต่อจากนั้นไม่นานกับท่าทีของแบงก์ชาติในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% และปรับลดเป้าตัวเลขจีดีพีลง 0.8% เหลือ 2.8% จาก 3.6% สวนทางนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของท่านนายกฯ เศรษฐา
สุดท้ายจึงเป็นที่มาของภาพการรวมโต๊ะกินข้าวเคลียร์ใจกันว่าไม่มีอะไรในกอไผ่
นายกฯ เศรษฐายังระบุด้วยว่า "เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ 2 คนที่พูดคุยกัน แต่เป็นการคุยกันด้วยดี และหลังจากนี้จะมีการพบกันอย่างต่อเนื่องอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า"
ถึงตรงนี้คงไม่มีใครกล้าฟันธงว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ถ้าอ่านท่าทีของนายกฯ เศรษฐาแล้วเชื่อว่ายังคาใจอยู่ไม่น้อยถึงต้องออกมาขยี้ซ้ำทันทีว่านโยบายของแบงก์ชาติมีข้อผิดพลาด เพราะยก 3 กับประเด็นดอกเบี้ยกำไรของแบงก์รอบนี้มีแนวร่วมสนับสนุนรัฐบาลเยอะมาก ตรงข้ามกับ 2 ยกแรก และถ้าผู้ว่าฯ แบงก์ชาติน่าจะเพลี่ยงพล้ำมีอาการเมาหมัดหลังโดนอัดทุกทิศทาง ถ้าไม่ปรับกระบวนท่า มีโอกาสถูกน็อกสูง!!!
การแก้เกมยกนี้ ผู้ว่าฯ จะแก้กระบวนท่าได้หรือไม่หากยังมัวเมาหมัด รอบนี้ไม่แน่ว่าอาจถูกน็อก เก้าอี้ปลิวก็เป็นได้