xs
xsm
sm
md
lg

ROBOT ไม่รอดแล้ว / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สัญญาณการยกเลิกโปรแกรมเทรด หรือ ROBOT TRADING ถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ ก่อนหยุดลงที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งมีหน้าที่ทบทวนเครื่องมือการซื้อขายหุ้นที่มีความเร็วสูง และถูกนักลงทุนลุกฮือขึ้นต่อต้าน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้จุดกระแสการยกเลิก ROBOT โดยโพสต์ข้อความสั้นๆ ผ่านเฟชบุ๊กว่า “เลิก PROGRAM TRADING...จะดี”

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาขานรับนายกิตติรัตน์ โดยระบุว่า ตลาดหุ้นไทยสวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับเพิ่ม ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้โปรแกรมเทรด

และกระทรวงคลังรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกับเลขาธิการ ก.ล.ต. นางพรอนงค์ บุษราตระกูลแล้ว เพื่อศึกษาและทบทวนการใช้ Robot Trade

กระแสต่อต้าน ROBOT ถูกจุดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว แต่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ยืนกรานมาตลอด ปฏิเสธข้อเรียกร้องของนักลงทุน ไม่ยอมทบทวน ROBOT แม้นักลงทุนรายย่อยนัดประท้วง โดยการหยุดซื้อขายหุ้น เมื่อวันที่17 พฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ตาม

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกมาตอบโต้ข้อโจมตี ROBOT มาตลอด โดยอ้างว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติ ไม่มีการทำรายการ NAKED SHORT หรือการขายหุ้น โดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ

และการมี ROBOT ช่วยสร้างมูลค่าซื้อขายหุ้น

แต่มุมมองของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ แตกต่างจากนักลงทุนอย่างสิ้นเชิง เพราะนักลงทุนมองว่า ROBOT คือมหาโจรร้ายที่เข้ามาปล้นนักลงทุนในประเทศ และมีความได้เปรียบนักลงทุนรายย่อยอยู่หลายขุม

การได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อคำสั่งซื้อขายตรงเข้าระบบศูนย์กลางของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ได้เปรียบนักลงทุนด้านความรวดเร็วของคำสั่งซื้อขาย และเชื่อว่า มีการทำ NAKED SHORT ซึ่งเป็นการเล่นนอกกติกา ผิดกฎหมาย โกงนักลงทุนในประเทศอีกด้วย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยจับ NAKED SHORT ได้ และลงโทษปรับโบรกเกอร์ที่ปล่อยให้ลูกค้าต่างชาติ ขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือไปหลายราย

แต่เชื่อว่า รายการ NAKED SHORT ที่ตลาดหลักทรัพย์ตรวจเจอ เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

ROBOT ถูกออกแบบหรือเขียนโปรแกรม เพื่อกินรวบนักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เพียงแต่บางประเทศ ปิดประตูไม่ต้องรับ ROBOT แต่ตลาดหลักทรัพย์กลับเปิดประตูทุกบ้านต้อนรับ ยอดให้เชื่อมระบบซื้อขายเข้าไปที่ระบบตลาดหลักทรัพย์โดยตรง ทำให้ได้เปรียบนักลงทุนทั่วไปในความรวดเร็วของกาส่งคำสั่งซื้อขาย

โดยภายในเวลา 1 วินาที ROBOT สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้เกือบ 20 รายการ

ROBOT เข้ามาในตลาดหุ้นไทย ในระยะเวลาใกล้เคียงกับการที่นายภากรถูกประกาศชื่อ เข้ารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เมื่อต้นปี 2561

ตั้งแต่ ROBOT เข้ามา หุ้นปรับตัวลงต่อเนื่อง จากระดับประมาณ 1850 จุด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ลงมาถึงระดับ 1357 เมื่อวันพุธที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา หรือลงมาเกือบ 500 จุด

มูลค่าการซื้อขายหุ้นที่เคยพุ่งขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท ล่าสุดซื้อขายต่ำกว่าวันละ 4 หมื่นล้านบาท เพราะนักลงทุนส่วนหนึ่งหมดเงิน ไม่มีกำลังซื้อ และแบกหุ้นต้นทุนสูงไว้เต็มพอร์ต โดยมียอดซื้อหุ้นสะสมในรอบ 5 ปีกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งขาดทุนกันแทบทั้งสิ้น

สาเหตุที่หุ้นตกมาต่อเนื่อง 5 ปีเต็ม อาจเกิดจากหลายเหตุปัจจัย แต่ ROBOT ก็เป็นอีกตัวการสำคัญที่ทุบหุ้น

การเปิดเผยข้อมูลการซื้อขายของ ROBOT นับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้เห็นชัดถึงการโจมตี หุ้นรายตัวของ ROBOT

ROBOT เข้าไปทุกหุ้นตัวไหน หุ้นตัวนั้นร่วงไม่เป็นท่า และปฏิเสธไม่ได้ว่า ROBOT และปฏิเสธไม่ได้ว่า ROBOT ไม่มีอิทธิพลชี้นำหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่ ROBOT มีสัดส่วนการซื้อขายระดับ 40% ของมูลคาซื้อขายทั้งหมด

ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลว่า ระยะเวลาประมาณ 5 ปีที่ ROBOT บุกโจมตีตลาดหุ้นไทย โกยเงินของนักลงทุนไปแล้วเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ ROBOT กินไปแล้ว คงเรียกคืนกลับไม่ได้

เพียงแต่จะต้องรีบระงับยับยั้ง ไม่ให้ ROBOT ทำร้ายนักลงทุนในประเทศต่อไป

เมื่อรัฐบาล เมื่อกระทรวงการคลังเห็นแล้วว่า ROBOT เป็นตัวปัญหา จะต้องรีบทบทวนยกเลิก ตะเพิดพ้นตลาดหุ้นไทยโดยเร็วที่สุด

ของขวัญชิ้นใหญ่ปีใหม่ 2567 สำหรับนักลงทุนคือ การประกาศห้าม ROBOT TRADE

เพราะการยกเลิก ROBOT จะเป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ที่จะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาทันที

และจะเป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ที่จะปลุกให้ตลาดหุ้นฟื้นคืนสู่ความคึกคักในพริบตา

ยุติ ROBOT นักลงทุนทั้งตลาดหุ้น คงฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข และดัชนีฯ สิ้นปีอาจทะยานไปแถว 1500 จุด ก็ได้ ทำเป็นเล่นไป








กำลังโหลดความคิดเห็น